ซ้อต่าย ฉุนขาดสั่งปลดเจ้าหน้าที่รับสมัคร มิสบุรีรัมย์
ฟุตบอล: กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีหลังจากที่มีหนึ่งในสาวงามที่เข้าร่วมประกวด "มิส บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ที่ทางสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาสาวงามที่มีหัวใจรักกีฬา มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ประจำสโมสร ชิงเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส
โพสต์คลิปวีดีโอผ่านโซเชียลแคม โดยใช้ชื่อว่า"นรีเมธ มุคำ (แอลฟี่)" ระบุว่า "เป็นพริตตี้รับจ้างมาประกวด แค่มาลงสมัครก็รับค่าตัว"ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการประกวดครั้งนี้ ในเรื่องของเกณฑ์การตัดสินผู้ที่เข้าประกวด ว่าจะโปร่งใสหรือเปล่า จะมีการล็อคสเป็คผู้เข้าไปประกวดไว้แล้วหรือไม่
เรื่องดังกล่าวทำให้ "ซ้อต่าย" กรุณา ชิดชอบ ต้องออกมาชี้แจงผ่านเฟสบุ๊คของตัวเอง "Karuna Chidchob"อย่างเผ็ดร้อนว่า
"ไม่ว่าคุณจะมาจากไหน หรือใครจะจ้างใครมาประกวด เพื่อหวังจะล่าเงินรางวัลในรายการนี้ ก็ขอบอกว่าคิดผิด และคนที่ไปจ้างคุณมา กรอกใบสมัคร ก็ต้องเสียเงิน "ค่าตัวให้คุณฟรีๆ" เพราะรายชื่อคณะกรรมการที่จะมาตัดสิน ตำแหน่ง MISS BURIRAM UNITED ตามที่ได้ประกาศรายชื่อออกไป คณะกรรมการทุกคน "ไม่มีใครซื้อได้" และคณะกรรมการทุกคนต้องเลือก "คนที่ดีที่สุด" เท่านั้น เพราะคนที่จะได้รับการตัดสินจะเป็นหน้าตาของตัวคณะกรรมการด้วยเช่นกัน ถ้าคุณไม่สวย และไม่ดีพอในสายตาของคณะกรรมการ ไม่ต้องเสียเวลามาสมัครเลยค่ะ"
และเพื่อให้การรับสมัคร ผู้เข้าประกวด MISS BURIRAM UNITED ยังดำเนินต่อไปได้ และมีคุณภาพ ตั้งแต่ในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ดิฉันขอสั่งปลด เจ้าหน้าที่ที่รับสมัคร (ที่เริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 3-19 มีนาคม 2556) ออกทั้งหมด
เนื่องจากทำงาน ไม่มีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐานและที่สำคัญ คือ ไม่มีตา และดิฉันได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ที่จะรับสมัครใหม่ไว้แล้ว ผู้ที่จะไปสมัคร สามารถไปสมัครได้ที่สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม และที่ทำการของสโมสรฯ ถนนพหลโยธิน ซอย 43 กรุงเทพ ในเวลาเดิม
ทั้งนี้หลังจากมีการชี้แจงผ่านเฟสบุ๊คแล้ว "ซ้อต่าย" ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า "ไม่ว่าใครอย่าได้คิดถูกเวทีการประกวดนี้ หรือเวทีนี้จะเหมือนกับเวทีอื่นๆ คือ ง่าย และล็อคตัวผู้เข้าประกวดไปก่อนแล้ว เพราะทุกอย่างที่ทำล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของคนบุรีรัมย์ทั้งจังหวัด และเป็นเรื่องเศรษฐกิจล้วนๆของคนบุรีรัมย์"
"สำหรับสิ่งที่ทำไปนั้นก็เพื่ออยากให้ผู้คนจากทั่วสารทิศเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะจังหวัดบุรีรัมย์ไม่ได้มีภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยต่อการท่องเที่ยวมากนัก ไม่มีทะเล ภูเขา และสถานที่น่าสนใจมากมาย ในปีที่แล้วทางสโมสรจัดงานสงกรานต์ 2 วัน มีคนเข้ามาใช้เงินในจังหวัด 50 กว่าล้านบาท ซึ่งตรงนี้ก็มีผลต่อเจ้าของโรงแรม ร้านค้า แม่ค้าพ่อค้า ลูกหลานในจังหวัดบุรีรัมย์ เรียกว่าคนที่ได้รับประโยชน์คือ คนบุรีรัมย์ล้วนๆ"