วันที่ 20 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.พีระพันธ์ มีมาก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่ามีเหตุคนยิงกันมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย บาดเจ็บ  2 ราย เหตุเกิดที่อพาร์ทเม้นต์ชื่อพงศ์-วรรณ อพาร์ทเม้นต์ 2 เลขที่ 75/112 ถนนเทพกระษัตรี ม.6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบ 

หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต  พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง หัวหน้าพนักงานสอบสวน (สบ.4) พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รองผกก.ป. พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต  พ.ต.ต.ปทักข์ ขวัญนา สวป. พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง สารวัตรเวรวิทยาการจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต-เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิกุศลธรรม

ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้ตลาดนัดสามกองทาง ไปมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ต.รัษฎา ภายในโครงการภูเก็ตการ์เด้นวิลล์ ซอยสุขโต 2 อพาร์ทเม้นต์ดังกล่าวเป็นอพาร์ทเม้นต์จำนวน 4 ชั้น เห็นมีประชาชนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องกั้นเพื่อไม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณดังกล่าวโดยเด็ดขาด 

โดยบริเวณพื้นบันไดทางขึ้นอพาร์ทเม้นต์ดังกล่าวมีกองเลือดไหลนองพื้นยาว ที่บริเวณชั้น 1 ห้องหมายเลข 109 ที่ประตูหน้าห้องพบกองเลือดกองใหญ่นองพื้นส่งกลิ่นเหม็นคาวคละฟุ้งทั่วบริเวณ แต่ประตูห้องปิดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงผลักเข้าไปตรวจสอบภายในห้อง เมื่อเปิดประตูออกมาเจ้าหน้าที่ถึงกับผงะเมื่อศพจำนวน 2 ศพ นอนเสียชีวิตอย่างน่าอนาถอยู่ในห้องดังกล่าว เห็นพัดลมฝ้าเพดานเปิดอยู่ ในห้องรกรุงรัง 

ศพแรกทราบชื่อคือนายศรัณย์ ไชยธรรม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่121/1 ม.1 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่หน้าอก 1 นัด เอว 1 นัด สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีลายเพียงตัวเดียว นั่งคุกเข่าอยู่ที่ประตูห้อง ศีรษะพิงอยู่กับฝาพนังห้อง มือด้านขวาจับอยู่ที่ปลายเท้า มือด้านซ้ายวางอยู่ที่เอว มีเลือดไหลอาบร่าง 

ใกล้กันที่บนเบาะเตียงนอน พบศพนาย  นายเฉลิมพล ตรีภักดิ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้าน 221 ม.2 ถ.เพชรเกษม ต.คลองปาก อ.รัษฎา จ.ตรัง สภาพศพนอนหงายไม่สวมเสื้อสวมกางเกงขาสั้นสีขาวเพียงตัวเดียว ถูกยิงด้วยอาวุธขนาด 9 มม.เข้าที่ลำตัว 2 นัด เสียชีวิตคาที่ นอกจากนี้ที่บริเวณบนเตียงดังกล่าวยังพบร่างของนายณัฐพงษ์ แก้วควรชุม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177/1 ม.13 ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช  นอนอยู่บนเตียง ข้าง ๆศพเพื่อน หายใจรวยริน สภาพถูกยิงด้วยกระสุนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณลำตัว  เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็นการด่วน 

ต่อมา เจ้าหน้าที่พบว่ายังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ถูกญาติหามตัวส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตก่อนหน้านี้แล้วคือ ด.ต.พินชัย ปิยดิลก อยู่บ้านเลขที่ 323 /93 ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สภาพถูกยิงเข้าที่บริเวณขา 2 นัดอาการสาหัส

จากนั้นเจ้าน้าที่ตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุดังกล่าวอย่างละเอียดพบปลอกกระสุน 9 มม. 2 ปลอก และหัวกระสุน 2 หัว น้ำกระท่อมจำนวนหนึ่ง กากใบกระท่อมที่ต้มแล้ว 1 ถุง กากน้ำร้อนสำหรับต้มกาแฟ 1 ใบ และอุปกรณ์ต้มน้ำกระท่อมอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบ น.ส.วรางคณา วิเชียร ภรรยาของ ด.ต.พิณชัย ทราบว่า ด.ต.พิณชัย และภรรยา พักอยู่ห้องเลขที่ 111 ซึ่งอยู่ติดกับห้องที่เกิดเหตุ ด.ต.พิณชัยได้เดินผ่านหน้าห้องดังกล่าว เพื่อกลับเข้าไปที่ห้องพักของตัวเอง ซึ่งอยู่ติดกัน ห้องพักของผู้ตายเปิดประตูแง้มอยู่และพูดจาส่งเสียงดัง จากนั้น ด.ต.พินชัย ก็เดินมาที่หน้าห้องของกลุ่มผู้ตาย เพื่อตรวจสอบว่าเสพยาเสพติดหรือไม่เพราะส่งเสียงดังรำคาญผู้ที่อยู่ใกล้เคียงอย่างมาก ในระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงปืนขึ้นมาจำนวนหลายนัด จนกระทั่งผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้ออกมาตรวจสอบพบด.ต.พินชัย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงหามส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตก่อนหน้านี้ 

จากนั้นตรวจสอบในห้องดังกล่าวพบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน ชาวบ้านจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุในการยิงกันครั้งนี้เนื่องจากด.ต.พินชัย เห็นผู้ตายเสพยาเสพติดน้ำกระท่อมสูตร 4 คูณ 100 ซึ่งเป็นยาเสพติดยอดฮิตของวัยรุ่นทาภาคใต้ จึงจะเข้าจับกุมแต่กลับถูกฝ่ายผู้ตายยิงโต้ตอบ ด.ต.จึงยิงตอบโต้จนกระทั่งมีคนตาย 2 ศพ และบาดเจ็บสาหัส 1 คน หรือกลุ่มผู้ตายส่งเสียงเอะอะโวยวาย จน ด.ต.พิณชัยเกิดความรำคาญ จึงได้เข้าห้ามปรามเกิดการโต้เถียงกันแล้วมีการแย่งปืนกันจนกระทั่งมีการยิงกันมีผู้ตาย-บาดเจ็บดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนสาเหตุ และได้เรียกผู้ที่พักอยู่บริเวณใกล้เคียงรวมทั้งภรรยาของ ด.ต.พินชัย ไปสอบปากคำแล้ว เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป