ลือทั่วเน็ต! เอาเพลง แกรมมี่ ไปร้องเรียกเก็บเงินเป็นแสน

กลายเป็นกระแสข่าวที่มีคนพูดถึงมาตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 มีนาคม ในสังคมออนไลน์อย่างมาก หลังมีการแชร์ข้อมูล ที่ไม่ทราบที่มาแน่ชัด ซึ่งเป็นการแจ้งไปยัง นักดนตรี นักร้อง ที่เล่นเพลงตามสถานบันเทิง ร้านอาหาร ตามงานต่างๆ หรือแม้กระทั่งตามอินเตอร์เน็ตว่า หากมีผู้นำเพลงของค่ายแกรมมี่ ไปเล่น จะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้กับทางค่าย เป็นหลักแสนๆ บาท

เป็นต้นว่า หากนำเพลงของทางค่ายมาร้อง 3 เพลง ต่อคืน ต้องเสียเงินเป็นจำนวน 1.2 แสนบาท แต่ถ้า นำมาร้อง 6 เพลง ต้องจ่ายถึง 2.4 แสนบาท พร้อมอ้างว่า บ.แกรมมี่ มีสิทธิ์ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ และผู้กระทำผิด โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 16 มีนาคมนี้

ซึ่งเมื่อข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วบนเฟซบุ๊ก ได้สร้างความแตกตื่นให้กับวงการดนตรีอย่างมาก โดยเฉพาะแวดวงผู้เล่นดนตรีสดกลางคืน อย่างมาก เพราะต้องยอมรับ เพลงไทยหลักๆ ที่หยิบไปเล่น และนักท่องราตรี นิยมฟัง ส่วนใหญ่ ก็เป็นเพลงจากศิลปินของค่ายนี้

กับกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวของทาง"ประชาชาติธุรกิจ ออนไลน์" ได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ กฤช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ในทันที โดยได้รับคำชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจาก การเก็บค่าลิขสิทธิ์ มีมาหลายปีแล้วปกติ รายละเอียดในการเก็บก็มีเยอะ ที่ผ่านมาก็ปล่อยบ้าง ทำให้คนทำงานเรียกร้อง ทางบริษัทก็มีการประชุมกัน แต่ยังไม่สรุป เรื่องจะทำยังไงให้มีราคาที่เหมาะสม และเอื้ออำนวยต่อการค้า

" เมื่อก่อนก็มีราคาเหมา แต่มันก็ทำให้พวกเจ้าภาพตัวเล็กๆ วงหมอลำ เขาแย่ มันไปทำอันตรายให้การค้าเขา ก็เลยคุยกันว่าจะหาวิธียังไง ก็ตกลงว่าจะคิดด้วยมูลค่าการค้า โดยการเก็บ 5% เช่น ถ้าค่าตั๋ว 20 บาท มีคนซื้อ 3,000 คน ถ้าเขาเอาไปร้อง 10 เพลง ก็คิดง่ายๆ ตกเพลงละ 300 บาทเองนะ ถ้ามูลค่าการค้าสูง เช่น 40 ล้าบาท เราเก็บ 5% ก็เจอ 2 ล้านบาท ก็แฟร์กัน

"คือที่ผ่านมาเราก็ยังปล่อยปละละเลย เขาก็เข้าใจว่าฟรี แต่ทีนี้เราทำงานมา คนทำงานเพลงก็เรียกร้อง ก็ต้องตั้งอยู่บนความยุติธรรมด้วย อย่างตามผับ บาร์ ผู้ดำเนินการค้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบ จะใช้กี่เพลงกี่ครั้งก็ว่าไป ต้องไปถามศิลปินที่เคยไปเล่นตามผับ ตามบาร์ เมืองนอก เขาจดชื่อเพลงส่งเลยนะ เหมือนกับสรรพากรมาตรวจน่ะ เราก็ดีแคลร์ไป" กฤช ทอมมัส เผย

เอาเป็นว่า ทางแกรมมี่ ยืนยันในเบื้องต้นว่า ไม่ได้มีการเรียกเก็บ มากมายขนาดนั้น แต่ก็ต้องมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ให้กับคนทำงานเพลง ที่เหน็ดเหนื่อยกับการสร้างสรรค์ดนตรีกันบ้างละนะ

เพราะปัจจุบัน อะไรๆ ก็ต้องทำให้เป็นธุรกิจ ไม่เช่นนั้นจะอยู่รอดได้อย่างไร