สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ว่า นายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้สหรัฐมีระบบป้องกันขีปนาวุธอยู่ทั้งหมด 30 ตัว ประจำการอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และ รัฐอะแลสกา แต่กองทัพสหรัฐก็จะติดตั้งเพิ่มอีก 14 ตัว ในรัฐอะแลสกา ให้ได้ตามแผนการที่กำหนดภายในปี 2560 เพื่อเพิ่มศักยภาพของกองทัพสหรัฐว่า สามารถการยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ก่อนที่จะเข้ามาถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเกาหลีเหนือ ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านเทคโนโลยี ขีปนาวุธข้ามทวีป
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวต่อไปว่า สหรัฐมีระบบป้องกันขีปนาวุธเพื่อปกป้องประเทศจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธข้ามทวีป แต่กับเกาหลีเหนือซึ่งมีความก้าวหน้าด้านอาวุธ และกำลังอยู่ในภาวะที่ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบและการยั่วยุอย่างไม่ยั้งคิด
เกาหลีเหนือภายใต้การนำของนายคิม จอง-อึน มีขีปนาวุธที่สามารถโจมตีเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้ แต่ยังไม่เคยแสดงถึงขีดความสามารถในการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐก็วิตกกังวลในเรื่องนี้ เพราะเกาหลีเหนือเคยส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรมาแล้ว และ โครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็ยังบ่งบอกว่าจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
เกาหลีเหนือเคยขู่มาแล้วอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และยังได้ประกาศล้มเลิกสัญญาสงบศึกที่ยุติสงครามเกาหลีเมื่อ 60 ปีก่อน