รวบหนุ่มแสบ-ตุ๋น5ล.สาวใน"เว็บหาคู่"

ใช้รูปเก๊! หน้าตาดี โวทำงาน แต่งเพลง ให้ค่ายดัง

 


ตุ๋น4ล้าน - กองปราบฯจับกุมนายชัยณรงค์ ฉิมนอก อายุ 29 ปีอ้างเป็นนักแต่งเพลงค่ายแกรมมี่ ใช้รูปหนุ่มหล่อแทนตัวเองไปโพสต์ในเว็บไซต์หาคู่ ต้มตุ๋นเหยื่อสาวจนสูญเงินกว่า 4 ล้าน เมื่อวันที่ 13 มี.ค.

กองปราบฯ ตามรวบหนุ่มแสบ เที่ยวเอา รูปคนหล่อๆไปโพสต์อวดอ้างสวมรอยเป็นตัวเองตาม "เว็บหาคู่" พร้อมตั้งชื่อปลอมๆ ให้ฟังดูดีมีชาติตระกูลอย่าง "เจนพิทักษ์ โสมนัสศิริวัฒนา ณ อยุธยา" คุยฟุ้งเป็นนักแต่งเพลงมือทองค่าย แกรมมี่ แถมยังทำงานเบื้องหลังให้ "อัสนี-วสันต์" สองพี่น้องนักดนตรีซูเปอร์สตาร์ พอเหยื่อตายใจก็หลอกขอยืมเงินแล้วชักดาบ มูลค่าความเสียหายสูงร่วม 5 ล้านบาท มีผู้เสียหายนับสิบราย



เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วราวุธ เจริญชนม์ รองผกก.3 บก.ป. และพ.ต.ต.สมโภชน์ เข็มเพ็ชร์ สว.กก.3 บก.ป. ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายชัยณรงค์ ฉิมนอก อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/17 ซอยชุมชนหัวโค้ง 2 แขวงและเขตคลองเตย กทม. ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น จับกุมตัวได้ที่ลานจอดรถอพาร์ต เมนต์ บริษัท ธาราการ์เด้น จำกัด เลขที่ 3 ซอยรามคำแหง 164 แขวงและเขตมีนบุรี 



คดีนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความกับกองปราบปรามว่า ตกเป็นเหยื่อโดนนายชัยณรงค์ ผู้ต้องหารายนี้สวมรอยเป็นบุคคลอื่นและแสดงตัวอยู่ในเว็บไซต์หาคู่ เพื่อหลอกยืมทรัพย์สินเงินทองของเหยื่อ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อเดือนส.ค. 2555 หลังจากรับแจ้งความ พนักงานสอบสวนก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับและติดตามจับกุม 



พ.ต.อ.วรวุฒิเปิดเผยว่า หญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง ให้การว่า เข้าไปค้นหาหรือเสิร์ชข้อมูลผ่านเว็บไซต์กูเกิ้ลเพื่อหาเว็บไซต์หาคู่ กระทั่งไปพบเว็บไซต์ www.jubkoo.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์แห่งเดียวที่ไม่ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวหรือให้รายละเอียดต่างๆ เพียงแต่เข้าไปสมัครสมาชิกก็สามารถค้นหาบุคคลที่ต้องการทำความรู้จักได้ทันที ต่อมาผู้เสียหายพบรูปภาพและประวัติปลอมของนายชัยณรงค์ ใช้ชื่อว่า นายเจนพิทักษ์ โสมนัสศิริวัฒนา ณ อยุธยา อ้างว่าตนมีอาชีพเป็นนักดนตรี ทำงานเป็นทีมแต่งเพลงให้นักร้องค่ายแกรมมี่ และทำงานอยู่ในทีมเบื้องหลังของ "อัสนี-วสันต์" สองพี่น้องนักร้องชื่อดังระดับประเทศอีกด้วย



พ.ต.อ.วรวุฒิเผยด้วยว่า ขณะนั้นผู้ต้องหาใช้รูปภาพของผู้อื่นที่หน้าตาดีเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมาโพสต์ พร้อมกับแสดงสถานะว่าครอบครัวมีฐานะดี เคยไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นจึงพูดคุยกันกับผู้เสียหายผ่านโปรแกรมแช็ต จนแลกเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกันจนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ถึงขั้นให้ยืมเงินไปเป็นจำนวนมาก



"เชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อคดีมาแล้วหลายราย มูลค่าความเสียหายที่พบในขณะนี้มากกว่า 5 ล้านบาทแล้ว จะต้องสอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารต่างๆ ที่ได้รับการโอนเงินจากผู้เสียหาย หลังจากนั้นจึงพิจารณาดำเนินคดีตามความผิดตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าเคยถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงด้วยพฤติการณ์ลักษณะ เดียวกัน ขอให้เข้าแจ้งความที่กองปราบฯ" ผกก.3 บก.ป.กล่าว



ด้านน.ส.เอ ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ก่อนถูกหลอกให้โอนเงินไปให้ นายชัยณรงค์พูดจาหว่านล้อมต่างๆ นานา ระบุว่าถ้าไม่เชื่อใจว่ามีฐานะดีก็จะโอนเงินมาให้ก่อน แต่พอคุยไปคุยมาอ้างว่าอยู่ต่างประเทศ ขั้นตอนโอนเงินทำได้ลำบาก หลังจากนั้นก็เป็นฝ่ายขอหยิบยืมเงินจากตน บอกว่าจำเป็นต้องใช้ไปลงทุนทางธุรกิจดนตรี และใช้วิธีหลอกลวงเพื่อให้โอนเงินไปให้อีกหลายครั้งเป็นจำนวนนับล้านบาท ที่ผ่านมาเคยขอนัดพบ ผู้ต้องหา แต่ทุกครั้งจะถูกบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าติดงานบ้าง หรือถูกผู้จัดการส่วนตัวกักตัวไว้ไม่ให้ออกไปไหน และอีกหลายครั้งติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ ทำให้เริ่มสงสัยว่าถูกหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความ



"ครั้งแรกก็คิดว่าคงไม่ได้หลอกเรา เพราะอ้างถึงบุคคลต่างๆ จำนวนมาก ไม่ได้สงสัยอะไร จนเมื่อถูกเอ่ยปากขอหยิบยืมเงิน เขาก็ยืนยันว่าจะหามาคืนให้แน่นอน มีวิธีพูดจาหว่านล้อมจนเราต้องหลงคารมและยอมใจอ่อนทำตาม" ผู้เสียหายกล่าว



อย่างไรก็ตาม ในชั้นสอบสวนนายชัยณรงค์ ให้การภาคเสธ อ้างว่า มีอาชีพเป็นนักดนตรี เล่นอยู่ตามผับต่างๆ ในกทม. เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตนไปโพสต์ข้อมูลต่างๆ ไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวจริง โดยนำภาพบุคคลหน้าตาดีซึ่งนำมาจากทางอินเตอร์เน็ต ไปใช้ตั้งโปรไฟล์ให้ข้อมูลส่วนตัว ชื่อ-สกุล ที่แอบอ้างขึ้น จากนั้นจึงทำความรู้จักกับบรรดาผู้เสียหายที่เข้ามาติดต่อและพูดคุยผ่านโปรแกรมแช็ต แลกเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกัน รายใดเริ่มสนิทก็จะยอมเปิดเผยตัวตนภายหลังว่าไม่ได้เป็นคนที่ได้โพสต์รูปไว้ในเว็บไซต์ หากใครต้องการคบหากับตนต่อไปก็จะนัดพบกัน ยืนยันว่าทุกรายที่ผ่านมาตนคบหากันจริง



"ผมยอมรับว่าขอยืมเงินจากผู้เสียหาย จริงเพราะต้องการนำไปลงทุนทำร้านอาหารของผมภายในซอยมิสทีน ย่านรามคำแหง แต่ละคนก็จะหยิบยืมเงินหลักหมื่นถึงแสนบาท ซึ่งมีคนที่โอนเงินมาให้ประมาณ 10 ราย ยอมรับว่าผมเป็นคนเจ้าชู้ คุยสนุก เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นอยากจะขอโทษผู้เสียหาย ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี ทำให้ครอบครัวผิดหวัง และพร้อม จะหาเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายทั้งหมด" นายชัยณรงค์กล่าว

14 มี.ค. 56 เวลา 17:41 1,684 1 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...