เมื่อ 13 มี.ค. ร.ต.อ.ธีระวัฒน์ หมู่พยัฆ์ ร้อยเวรสภ.แม่สอด จ.ตาก รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพคนเสียชีวิตริมถนนทางเข้าไร่ข้าวโพด หมู่บ้านเมืองทอง หมู่ที่ 15 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิตากร่วมใจสงเคราะห์ 

 

 ที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรังพบศพนายเมือง กันทา อายุ 38 ปี หมู่ 9 ต.แม่ปะ สภาพศพนอนคหงายสวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีน้ำเงินเข้ม สภาพศพนอนคว่ำอยู่กับรถจักรยานยนต์ ตรวจสอบไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยถูกทำร้าย

 

 สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่จักรยานยนต์จากบ้านพักไปเกี่ยวหญ้าให้วัว เกิดอาการหน้ามืดเพราะอากาศร้อนจัด ประกอบกับผู้ตายมีโรคประจำตัว คือโรคความดันโลหิต จึงเกิดอาการช็อกหมดสติล้มลง เจ้าหน้าที่ส่งศพไปที่โรงพยาบาลแม่สอด เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพ หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป 

 

 ทั้งนี้สภาพอากาศในพื้นที่อ.แม่สอด ค่อนข้างแปรปรวน โดยช่วงเช้ามีสภาพอากาศหนาวเย็น และช่วงบ้านมีอากาศร้อนจัด โดยกรมอุตุฯระบุสภาพอากาศสูงถึง 34.4 องศาเซลเซียส 

 

 ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 11.20 น.ที่ จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนครสวรรค์ รับแจ้งเหตุมีคนเป็นลมติดอยู่บนหลังคาบ้าน ที่บ้านเลขที่ 961/6 หมู่ที่ 9 ซอยสวรรค์วิถี 46 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงรุดไปตรวจสอบพบชายอายุประมาณ 45 ปี หมดสติอยู่บนหลังคาบ้าน ไม่สามารถนำตัวผู้หมดสติลงมา จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยแพทย์กู้ชีพจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นำรถกระเช้า เข้าช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือปฐมพยาบาลพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บบนหลังคาบ้าน แต่สุดท้ายชีพจรผู้บาดเจ็บอ่อนลง และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลังว่านายพิษณุ ไผ่ปาน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 341 หมู่ 7 ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อาชีพรับเหมาก่อสร้าง 

 

 ร.ต.อ.กิตติ สุขวงษ์คำ พงส. สภ.เมืองนครสวรรค์ เผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว จ้างนายพิษณุมาซ่อมแซมหลังคาบ้านตั้งแต่ช่วงเช้า พอเวลาประมาณ 11.00 น. นายพิษณุบ่นว่าอากาศร้อน จึงลงมาพักข้างล่างประมาณ 30 นาที จากนั้นขึ้นไปทำงานต่อบนหลังคา อีกไม่เกิน 10 นาที นายพิษณุก็หงายหลังล้มลง มีอาการเกร็งและน้ำลายฟูมปาก จึงแจ้งหน่วยกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ ทั้งนี้ภรรยานายพิษณุยืนยันว่าผู้ตายเป็นคนแข็งแรง สาเหตุการตายเชื่อว่าเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดจนเป็นเหตุให้เป็นลมและเสียชีวิต 

 

 ทั้งนี้สภาพอากาศที่จ.นครสวรรค์ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ กรมอุตุฯระบุว่ามีอุณหภูมิสูงสุดถึง 36.7 องศาเซลเซียส 

 

 เวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่จ.ระนอง ผู้สื่อข่าวรับแจ้งเหตุคนเป็นลมเสียชีวิต จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ระนอง โดยผู้เสียชีวิต คือนางเบญจมาศ ขำชุมพร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 302/74 ซอย 14 นากุ้ง หมู่ 5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง โดยจากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ ระบุว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุเป็นงานอุปสมบทของนายณัฐพงษ์ เกตุวัดเลข อายุ 20 ปี ลูกชายของผู้ตาย ที่จะครบเกณฑ์ทหารในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ จึงขออุปสมบททดแทนพระคุณพ่อแม่ 

 

 โดยขณะที่กำลังแห่นาครอบพระอุโบสถ นางเบญจมาศที่อยู่ในอาการเหนื่อยอ่อน เพราะช่วยจัดเตรียมงานบวชมาตั้งแต่ก่อนวันงาน เกิดเป็นลมหมดสติลง ญาติและผู้เห็นเหตุการณ์ช่วยกันพาไปหลบที่ร่ม แล้วเรียกรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลระนอง แต่นางเบญจมาศเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล 

 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นางเบญจมาศจะเสียชีวิต มีท่าทีเหนื่อยอ่อนชัดเจน โดยระบุกับญาติๆ ว่ามีความสุขที่เห็นลูกชายอุปสมบท และออกมาช่วยงานรับแขกตลอด โดยไม่ได้รับประทานอาหารเช้า เมื่อรวมกับอากาศร้อน จึงน่าจะเป็นสาเหตุของการเป็นลมหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ทางญาติยังไม่ได้บอกให้พระณัฐพงษ์ ลูกชายทราบ โดยตั้งใจให้สงบสติอารมณ์ก่อนสักคืน

 

 ทั้งนี้กรมอุตุฯ รายงานสภาพภูมิอากาศที่จ.ระนองว่าสูงสุดที่ 35.8 องศาเซลเซียส