ตึกแถวเล็กๆ ภายในซอยสุขุมวิท 51 ตึกหน้าตาธรรมดา

แต่ถ้าคุณได้ลองเดินขึ้นไปบนชั้น 4

คุณจะพบร้านน่ารักที่ซ่อนตัวอยู่ภายในตึกนี้
 

 

Garden of Dream ร้านอาหารแนวโฮมเมด คุกกิ้ง

ที่เกิดจากความฝันของคุณกี้ รณิษฐา จริตกูล ครีเอทีฟนักโฆษณาที่ผันตัวเองมาทำร้านอาหาร



คุณกี้บอกกับเราว่าเคยทำร้านอาหารตั้งแต่อยู่เมืองนอก และฝันอยากเปิดร้านของตัวเอง

แต่พอกลับมาเมืองไทยมาทำงานด้านโฆษณาก็ไม่มีเวลาทำความฝันนั้น

แต่วันนี้คุณกี้เฟดตัวเองออกจากวงการโฆษณา และมาเปิดร้าน Garden of Dream

ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เหมาะกับการมานั่งชิลสบายๆ หลีกหนีความแออัดจอแจของเมืองหลวง



บรรยากาศร้านเน้นใช้โทนสีฟ้าเป็นหลัก มีสวนและน้ำพุเล็กๆ อยู่ในร้าน 

ร้านเน้นใช้กระจกใสทำให้สามารถมองวิวด้านนอกได้

ยิ่งในช่วงยามเย็นที่ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม

ด้านในร้านจะเปิดไฟสีเหลืองนวลตา

ยิ่งขับให้ร้านสวยงามโดดเด่นมากขึ้น



มุมโซฟาติดน้ำพุที่เป็นที่นิยมของลูกค้าที่สุด



ตู้ไม้เก่าที่เจ้าของร้านชอบ ภายในตู้มีเสื้อผ้าที่เพื่อนๆ มาฝากขายด้วย 



ของตกแต่งน่ารักภายในร้าน



อีกหนึ่งความฝันของคุณกี้คือการทำให้ร้านเป็นแนวกรีนเฮาส์

คือปลูกผัก แล้วนำผักมาปรุงอาหารให้ลูกค้า

แต่ติดปัญหาเรื่องแสงแดด และความร้อนที่มากเกินไป

จึงค่อยๆ ศึกษาหาหนทางในการทำกรีนเฮาส์

และตอนนี้ก็ลองปลูกเห็ดแล้วนำเห็ดมาปรุงเป็นอาหารได้บ้างแล้ว



นอกจากการตกแต่งที่เราชอบแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบคือมีโอเพ่น คิทเช่น 

โดยมีโต๊ะที่เชฟจะมากรุงอาหารบนโต๊ะนี้

คุณกี้บอกกับเราว่าลูกค้าหลายคนชอบมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเชฟ

และดูวิธีการทำอาหารอย่างสนุกสนาน



ส่วนทำเลของร้านที่ไม่ได้โดดเด่น เหมือนร้านอาหารทั่วไปนั้น

เป็นสิ่งที่คุณกี้ตั้งใจให้เหมือนกับร้านอาหารของต่างประเทศ

อย่างในนิวยอร์ค หรืออิตาลี

ที่จะมีร้านน่ารักแอบซ่อนอยู่ภายในตึก

ซึ่งเป็นเหมือนสิ่งเซอร์ไพรส์ให้กับคนที่พบเจอ



ส่วนในเรื่องของอาหารนั้นเราถามคุณกี้ว่าเป็นแนวไหน

คุณกี้ตอบด้วยความอารมณ์ดีว่าเป็นแนวเรา 

ซึ่งไม่ใช่ฟิวชั่นฟู้ด แต่เป็นแนวโฮม คุกกิ้ง ที่เหมือนกับเราทำอาหารอยู่ที่บ้าน

เราชอบสิ่งไหนก็ใส่สิ่งนั้น

และอาหารจะมีส่วนผสมของหลากหลายประเทศ

ที่คุณกี้เคยเดินทางไปและชอบวัฒนธรรมจากประเทศนั้นๆ

นำมาผสมผสานเป็นอาหารหลากหลายเมนู



เริ่มจาก Smoke Salmon & Son-dried tomato Salad

จานนี้เป็นการผสมผสานของรสเค็มนิดๆ ของแซลม่อน ความหวานของมะเขือเทศ

ตัดกับความมันของชีสราดด้วยน้ำสลัดสูตรของร้าน



จานต่อมาคือ Golden onion fitler หอมทอดที่คุณกี้เคยไปเห็นที่อินเดีย

เป็นหอมทอดที่ปรุงด้วยเครื่องเทศ ทอดมาเป็นแพ

แตกต่างจากหอดทอดตามร้านทั่วไปที่ทำเป็นวงกลมและใส่แป้งหนา

คุณกี้เอามาลองทำตาม ปรุงในแบบของเธอ จิ้มกับซอสที่เนื้อเนียนเหมือนวิปครีม

กลายเป็นอาหารทานเล่นที่อร่อยทีเดียว



ต่อกันด้วย Bacon & Chilli Spaghetti เบค่อนแห้งกรอบทานกับสปาเก็ตตี้รสเผ็ดนิด

และเป็นสปาเก็ตตี้ที่ไม่มัน ไม่เลี่ยน รสจัดจ้านดีทีเดียว



ปิดท้ายด้วย Chocolate Fondant เค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่มรสเข้มข้น

เวลาเสิร์ฟทางร้านจะใช้มีดผ่าตรงกลางเพื่อให้ช็อคโกแลตร้อนๆ ข้างในไหลออกมา

ใครที่อยากหลีกหนีความจอแจในเมืองหลวง

ก็ลองมานั่งเล่น นั่งพักที่นี่ 

หรืออยากควงตคนรักมาสวีตที่ร้านนี้ก็โรแมนติกมากๆ...