เกิดเหตุสลดหนุ่มใหญ่พลัดตกรถไฟขณะเคลื่อนขบวนออกจากชานชลาสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ศรีษะกระแทกรางก่อนเหยียบร่างซ้ำเสียชีวิตคาที่ ต่อหน้าผู้โดยสารนับร้อย  จนท.ตรวจสอบกล้องวงจรปิดสันนิษฐานอาจถูกเพื่อนดึงขณะก้าวขาลง หรือกระเป๋าสะพายเกี่ยวขอบประตู

 

เมื่อ 10 มี.ค. ร.ต.ท.ฐกร เสรีวรยศ  ร้อยเวรฯ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนพลัดตกรถไฟ ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม  

 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบร่าง นายวิชาญ ผ่องมาศน์  อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ม.1  ต.วังใหม่  อ.นายายอาม จ.จันทบุรี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรางรถไฟ ใต้โบกี้ที่ 3 ของขบวนรถธรรมดา (รถไฟฟรี) เลขที่ 234  สายสุรินทร์ – ปลายทางกรุงเทพมหานคร สภาพแขน-ขาหัก ใบหน้าและศรีษะมีบาดแผลหลายแห่ง คาดว่าศรีษะน่าจะกระแทกกับรางรถไฟและถูกขบวนรถเหยียบร่างซ้ำจนเสียชีวิตคาที่ ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของผู้โดยสาร ทั้งที่นั่งรอรถอยู่บริเวณสถานี และที่อยู่บนขบวนรถไฟ   

 

จากการสอบถาม นายเกษมสันต์ จันทร์ลิ้ม เจ้าหน้าที่รถไฟ  ให้ข้อมูลว่า ก่อนจะเกิดเหตุเห็นนายวิชาญ ผู้ตายนั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อน 3 – 4 คน อยู่บริเวณร้านค้าหน้าสถานีรถไฟ  ก่อนจะพากันมาตีตั๋วขึ้นรถไฟ จะไปลงที่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา โดยรถขบวนดังกล่าวได้วิ่งออกจากสถานีรถไฟสุรินทร์เวลาประมาณ 05.00 น. (10 มี.ค.56)  มาถึงและเข้าเทียบชานชลาที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์เวลา 06.02 น.  แต่พอรถกำลังเคลื่อนขบวนออกจากสถานีนายวิชาญ กลับเดินออกมาที่ประตูทำทีจะก้าวขาลงจากรถ ระหว่างนั้นพบว่านายวิชาญ ได้พลัดตกและถูกดูดเข้าไปในรางรถไฟจนถูกรถเหยียบร่างเสียชีวิตดังกล่าว    

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รถไฟ ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ในสถานีช่วงขณะเกิดเหตุ เพราะมีผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ระหว่างที่นายวิชาญ ก้าวขาจะลงจากรถได้มีคนที่อยู่บนรถดึงไว้  ทำให้เสียหลักพลัดตกถูกรถเหยียบเสียชีวิตดังกล่าว แต่จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด เห็นเพียงช่วงที่พลัดตกแล้วถูกดูดเข้าไปใต้รถไฟ   แต่มองไม่เห็นไว้มีคนดึงหรือกระเป๋าที่ผู้ตายสะพายไปเกี่ยวกับขอบประตูจนทำให้เสียหลักพลัดตกลงหรือไม่  

 

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอัศวิน ยินรัมย์ นายจักรกฤษ สายยอด และนายเด่น นำสุข ที่นั่งดื่มเหล้ากับผู้ตายก่อนจะขึ้นรถไฟด้วยกันไปสอบสวน แต่จากการสอบเบื้องต้นทั้ง 3 ให้การไม่รู้เรื่องเนื่องจากยังอยู่ในอาการมึนเมา