เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 มีนาคม ที่กองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสอบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พ.ต.อ.ปวริศ บุญสิทธิ รอง ผบก.สส.3 ร่วมกับ พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ รองผกก.สส.3บก.สส.ภ.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสส.1บก.สส.ภ.3 แถลงจับกุมผู้ต้องหาคดี ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น(ตกทอง)ได้แล้ว 1 รายคือ นางจุรีมาศ ตะบุตร อายุ 32 ปี อยู่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เนื่องจากได้ติดตามพฤติกรรมของแก๊งนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 55 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุ มีการฉ้อโกงทรัพย์ ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จาก นางรุ่งทิพย์ ศรีอ่อน อายุ 36 ปี อยู่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ว่า น้องสาวของตนเอง ชื่อ นางพรวิมนต์ ศรีอ่อน อายุ 28 ปี ซึ่งมีแฟนเป็นนักการเมืองในประเทศสวีเดนที่เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน ได้ถูกแก๊งหญิงสาวร่วมกันใช้กลอุบายหลอกเอาทรัพย์สิน เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท และสร้อยขอมือทองคำหนัก 1 บาท รวมมูลค่ากว่า 72,000 บาท หนีไปอย่างลอยนวล

จากนั้นตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ทุกจุดของห้างฯ กระทั่งพบกลุ่มผู้ต้องสงสัย แล้วนำภาพผู้ต้องสงสัยมาให้ผู้เสียหายดู ต่างยืนยันว่าเป็นกลุ่มหญิงสาวที่ร่วมกันลงมือฉ้อโกงจริง เมื่อทราบชื่อคือ นางจุรีมาศ ตำรวจจึงขออนุมัติหมายจับจากศาลแขวงนครราชสีมา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น (ตกทอง) ซึ่งมี 3 คน คือ นางจุรีมาศ นางสาวอุไรวรรณ ซิมทิม อายุ 25 ปี อยู่ จ.ปทุมธานี และ นางสาวขันฑา ซิมทิม อายุ 37 ปี อยู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่ง น.ส.อุไรวรรณ และ น.ส.ขันฑา 2 พี่น้องมีหมายจับฉ้อโกงติดตัวอยู่แล้ว ตำรวจจึงเร่งติดตามผู้ต้องหาทั้งหมดมาดำเนินคดี

กระทั่งล่าสุดจับ กุม นางจุรีมาศ ได้ที่บ้านพักจ.ปทุมธานี สอบสวนให้การรับสารภาพว่าตนและพี่สะใภ้ คือ นางสาวอุไรวรรณ และ นางสาวขันฑา ร่วมกันหลอกตกทองที่ห้างชื่อดัง จ.นครราชสีมา จริง โดยตนจะหลอกเหยื่อว่า น.ส.อุไรวรรณ ทำกระเป๋าทองหาย ขอให้เหยื่อช่วยตามหาทอง ก่อนจะทำทีมาเจอกับ น.ส.ขันฑา แล้วหลอกเหยื่อว่ามีคนเก็บได้ แล้วนำประเป๋าใส่ทองออกไปข้างนอกห้าง

นางจุรีมาศ อ้างว่า จากนั้นจะเป็นคนพูดจาหว่านล้อมเหยื่อให้ถอดสร้อยทองหรือแหวนที่มีอยู่ในตัว ออกเพื่อฝากกับตนไว้แลกเป็นหลักประกันกับกระเป๋าที่ตนเตรียมไว้ว่ามีทองอยู่ ในกระเป๋าหนัก 5 บาท หากช่วยนำกลับมาได้ ค่อยมาเอาทองที่เหยื่อถอดออกมาคืนให้ และเมื่อเหยื่อหลงกลก็จะรีบหลบหนีไปคนละทาง กว่าเหยื่อจะรู้ตัวว่ากระเป๋าที่เหยื่อสะพายอยู่ในไม่มีทอง มีแต่เพียงถุงทองที่ใส่เหรียญ ซึ่งยอมรับว่าทำมาแล้วหลายครั้งเงินที่ได้มานั้นก็จะนำมาแบ่งกันใช้ กระทั่งถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว

ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีฐาน ร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุม น.ส.อุไรวรรณ และ น.ส.ขันฑา มาดำเนินคดี ซึ่งหากประชาชนท่านใดที่เคยถูกกลุ่มหญิงสาวฉ้อโกงสามารถดูตัวได้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา