แม็กกี้ คิว เปลือยอก ถ่ายภาพรณรงค์ให้คนทานมังสวิรัติ
แม็กกี้ คิว นักแสดงสาวสวยจากฮอลลีวูด สลัดผ้า เปลือยท่อนบน ถ่ายภาพแคมเปญรณรงค์ให้ผู้คนหันมาทานมังสวิรัติ
นับเป็นนักรณรงค์ที่ทุ่มเทเพื่อสังคมจริง ๆ สำหรับ แม็กกี้ คิว (Maggie Q) นักแสดงสาวสวยจากฮอลลีวูด ที่ลงทุนเปลื้องผ้าเปลือยท่อนบนเพื่อถ่ายแคมเปญ รณรงค์ให้ผู้คนหันมารับประทานมังสวิรัติ โดยเมือปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เอ็มเอ็นเอ็น ได้มีรายงานว่า แม็กกี้ คิว (Maggie Q) นักแสดงสาวชาวอเมริกัน วัย 33 ปี ได้ถูกจับตามองอีกครั้งเมื่อเธอตัดสินใจสลัดผ้า เปลือยท่อนบนถ่ายแคมเปญให้กับพีต้า องค์กรพิทักษ์สัตว์ เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนหันมาต่อสู้กับปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยการงดการบริโภคเนื้อสัตว์และหันมาทานมังสวิรัติแทน
สำหรับแคมเปญของพีต้าในครั้งนี้ เป็นผลงานของช่างภาพ แฟรงก์ อ็อกเคนเฟลส์ 3 โดย แม็กกี้ คิว หรือชื่อจริงว่า มาร์การ์เร็ก เดนิส วิกลีย์ ได้เปลือยท่อนบน และปกปิดร่างกายของเธอด้วยการใช้บอดี้เพนท์ เป็นลักษณะคล้ายกับสีของโลก ซึ่งภาพที่ออกมาก็มีความสวยงามและสร้างเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้ผลงานภาพโฆษณาของเธอชิ้นก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เมื่อย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2007 แม็กกี้ คิว ได้เคยเปลือยกายถ่ายภาพแคมเปญรณรงค์ให้คนหันมารับประทานมังสวิรัติมา 2 ชิ้นแล้ว โดยได้นำผักมาวางปกปิดอวัยวะเพศของเธอ พร้อมทั้งได้กล่าวถึงการใช้ชีวิตแบบมังสวิรัติของเธอว่า "ฉันรู้สึกดีมาก ฉันพอใจที่ได้ทราบว่า ตัวเองกำลังทำบางสิ่งที่จะช่วยหยุดการทรมานสัตว์"
สำหรับการรณรงค์ในครั้งนี้ แม็กกี้ ก็ได้จู่โจมอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์โดยตรง โดยเธอขอให้ผู้คนมีความรับผิดชอบและลองคิดว่าตัวเลือกในการทานอาหารของพวกเขา จะส่งผลกระทบต่อโลก สัตว์ และสุขภาพของเรา อย่างไรบ้าง โดย แม็กกี้ เผยว่า แท้ที่จริงแล้ว น้ำหนักของโลกนั้นขึ้นอยู่กับเรา มันขึ้นอยู่กับตัวเลือกของเรา และเธอก็หวังว่าผู้คนคงจะศึกษาจากหนังสือหรือไม่ก็สารคดี เพื่อที่จะทำความเข้าใจว่าตัวเลือกของพวกเขานั้นสร้างความแตกต่างได้จริง ๆ
อนึ่ง การเพิ่มขึ้นของการบริโภคสัตว์นั้น นับเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรมากเกินไป การปล่อยพลังงานฟอสซิล มลภาวะทางอากาศและน้ำ หรือการพังทลายของดิน โดยอุตสาหกรรมเนื้อและนม ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อโลก นอกจากนี้ยังมีสัตว์อีกนับพันล้านตัวภายในฟาร์ม ที่ถูกบังคับให้อยู่ในสภาวะที่กดดัน และมีความเครียดสูง เพราะมักจะถูกขังไว้ในคอกที่แทบจะไม่ใหญ่ไปกว่าขนาดตัวของมัน พวกมันจะถูกฉีดสารเร่งการเจริญเติบโตอย่างผิดธรรมชาติ ก่อนที่จะถูกส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์