ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 3 มี.ค. 56  พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนกับรถตู้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานไปยังมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เพื่อนำรถไปลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดที่บริเวณถนนตัดทางรถไฟ หมู่ 4 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

                         ที่เกิดเหตุพบรถไฟขบวน 4040 สายธนบุรี-น้ำตก จอดขวางถนนตัดทางรถไฟอยู่ โดยมีผู้โดยสารทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่บนขบวนรถไฟเป็นจำนวนมาก บริเวณข้างหัวจักรรถไฟห่างจากจุดทางตัดรถไฟไปประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์ตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีบอรนซ์ หมายเลขทะเบียน นค 3766 นครปฐม มีนายเหลือ ชฎาดำ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 8 ต.ปากแรด อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เป็นคนขับ โดยรถยนต์ตู้จอดอยู่ในสภาพพังเสียหาย โดยเฉพาะด้านข้างซ้ายเนื่องจากถูกหัวจักรรถไฟชนเข้าอย่างแรง เบาะนั่งผู้โดยสารหักงอ มีร่องรอยหยดเลือดกระจายเป็นหย่อมๆ และเนื่องจากรถไฟขบวนดังกล่าวไม่สามารถเคลื่อนหลบเส้นทางไปได้ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก จากการตรวจสอบความเสียหายพบว่า อุปกรณ์ควบคุมเบรกหักงอ ต้องใช้เวลาในการซ่อมอีกเป็นเวลานาน

                         ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ที่โดยสารมากับรถยนต์ตู้ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเมโมเรียลกาญจนบุรี ประกอบด้วย 1.นางสาวรัศมี ปั่นทอง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 7 ต.นาเวียง อ.เสนานิคม จ.อำนาจเจริญ 2.นางเรไร ประสิทธิมาภรณ์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 1 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 3.เด็กหญิงกิติกาญจน์ สระธรรม อายุ 8 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 3 ต.กระแจะ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยทั้งสามรายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และ 4.นางศิริวรรณ พูลพิพัฒน์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 ต.ไร่โคก อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ทราบว่าเป็นแพทย์หญิงจากโรงพยาบาลซานคามิลโล ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณลำคอ และปวดศีรษะอย่างรุนแรง คณะแพทย์กำลังทำการเอ็กซเรย์ เพื่อตรวจเช็กอาการอย่างเร่งด่วน

                         จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายเหลือ ชฎาดำ คนขับรถตู้ขับมาจากบ้านท่าน้ำตื้น และกำลังพาผู้โดยสารทั้งหมด 6 คนซึ่งเป็นหญิงทั้งหมด มุ่งหน้าไปทำบุญที่วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ โดยวัดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่หมู่ 7 ต.หนองญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงทางแยกตัดทางรถไฟ ขณะกำลังชะลอรถ ปรากฏว่ารถไฟขบวนดังกล่าวได้วิ่งมาพอดี และพนักงานขับรถไฟได้บีบแตรส่งสัญญาณให้คนขับได้ยิน แต่นายเหลือ คนขับไม่ได้เร่งเครื่องหลบแต่อย่างใด คาดว่าคงไม่ได้ยินเสียงแตรของรถไฟ อีกทั้งรถตู้ได้ขับตัดหน้ารถไฟอย่างกะทันหัน ทำให้พนักงานขับรถไฟเบรกไม่ทัน จึงชนเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อีกทั้งจุดดังกล่าวอุปกรณ์กั้นทางรถไฟนั้นเสียหายใช้งานไม่ได้มานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เชิญตัวนายเหลือ ชฎาดำ คนขับรถยนต์ตู้ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี อีกทั้งการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้ขบวนรถไฟได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากเช่นกัน