รับจ้างอุ้มบุญ

ในขณะที่หนูน้อยลิลีฉลองวันเกิดครบ 1 ขวบที่ออสเตรเลีย  ห่างออกไปไกลถึงอินเดีย แม่อุ้มบุญของเธอหวนนึกถึงวันที่หนูน้อยลืมตาดูโลก และมองดูเธออย่างไม่ละสายตา 
   
ไซต้า ทาปา วัย 31 ปี เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ให้กำเนิดทารกที่คลินิกศูนย์รับอุ้มท้องในกรุงนิวเดลีของอินเดียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วในนามของคู่รักชาวเกย์(ชายรักชาย) โดยใช้ไข่ที่บริจาคของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอบอกว่า  เธอมีลูกเป็นของตัวเอง ตอนนี้โตเป็นวัยรุ่นอายุ 16 และ18 ปีแล้ว  แต่เมื่อรับจ้างอุ้มท้อง ทางคลินิกจะมีข้อปฏิบัติต่างๆ เพื่อเตรียมสภาพจิตใจให้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่า เด็กในท้องไม่ใช่ลูกของเรา
   
ธุรกิจอุ้มท้องกำลังกลายเป็นอุตสาห กรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอินเดีย  เนื่องจากคู่รักชาวต่างชาติจำนวนมากที่ไม่มีบุตรกำลังมองหาหนทางการเป็นผู้ปกครองด้วยวิธีที่ถูกกฎหมายและราคาไม่แพง ขณะที่รัฐบาลอินเดียผลักดันให้ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางของทัวร์สุขภาพ  แต่การที่คู่รักชาวต่างชาติยอมจ่ายเงินให้แก่คนยากจนในอินเดียเพื่อให้ได้ลูก  กลับสร้างความวิตกด้านจริยธรรมภายในใจของชาวอินเดียส่วนมากเกี่ยวกับความเป็นโรงงานผลิตลูก
   
สมาพันธ์อุตสาหกรรมอินเดีย ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำทางธุรกิจ ประเมินว่า อุตสาหกรรมอุ้มบุญ ทำรายได้ปีละกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 60,000 ล้านบาท  และเพื่อกลบเสียงวิจารณ์ ทางการอินเดียได้ออกกฎห้ามคู่รักชาวเกย์และคนโสดที่เป็นชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการอุ้มบุญ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและคลินิกผดุงครรภ์หลายแห่งที่ระบุว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ ส่วนเจ้าของคลินิกต่าง ๆ บอกว่า คลินิกให้ความใส่ใจต่อการดูแลผู้หญิงอุ้มบุญเป็นอย่างดี เพื่อที่จะทำให้ทารกมีสุขภาพแข็งแรง
   
ทาปา ซึ่งมีเส้นผมสีดำเป็นเงาและนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนตามแบบฉบับของชาวอินเดียในแถบตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า เธอไม่สงสัยในสิ่งที่เธอมีสิทธิสำหรับการยินยอมให้คู่รักชาวออสเตรเลียใช้ครรภ์ของเธอสร้างฝันให้เป็นจริงในการเป็นผู้ปกครอง   ทาปาบอกว่า เธอต้องการเป็นแม่อุ้มบุญ เพราะอยากได้เงินไปเข้าบัญชีเงินฝากเพื่ออนาคตของลูก ขณะเดียวกัน ยังเป็นการช่วยเหลือคู่รักที่ไม่สามารถมีบุตร ซึ่งเธอภูมิใจที่เป็นผู้ให้กำเนิดทารก
   
อย่างไรก็ตาม ทาปาไม่ยอมเปิดเผยจำนวนเงินที่เธอได้รับจากการอุ้มบุญ บอกแค่ว่า เธอต้องการเริ่มตั้งครรภ์อุ้มบุญคนที่ 2 ในเดือนเมษายน  แต่คลินิกเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ผู้รับจ้างตั้งท้องจะได้เงินคนละ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 180,000 บาท จากค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการอุ้มบุญครั้งละ 28,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 840,000 บาท ช่วงระหว่างการอุ้มบุญ ทางคลินิกจะเป็นผู้จัดหาที่พักให้ทาปากับสามีในกรุงนิวเดลี
   
สำหรับคลินิกอุ้มบุญแห่งนี้ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2551 โดยเมื่อปีที่แล้ว  มีทารกที่เกิดจากการอุ้มบุญของคลินิกดังกล่าว 291 คน  ซึ่งผู้ปกครองของเด็กมาจาก 15 ประเทศ รวมทั้งแคนาดา ออสเตรเลีย  ญี่ปุ่น นอร์เวย์ และบราซิล.

3 มี.ค. 56 เวลา 10:27 1,968 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...