เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มีนาคม ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.เกษมสันต์ บุญญกาญจน์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.สมโภชน์ สนกนก ผกก.สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 สภ.สันป่าตอง สภ.หางดง และสภ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาโจรอ้วนผอม 2 ราย คือ นายอินสอน คำภีระ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 86/2 หมู่ 8 ต.มะขุนหวาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ และนายมงคล น้อยมอย อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 95/1 หมู่ 2 ต.มะขุนหวาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ หลังร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ทำร้ายร่างกายด้วยการกระหน่ำหมัดชกใส่นางสำรวย จินามา อายุ 59 ปี เจ้าของร้านขายของชำในพื้นที่ ต.น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จนทรุดลง แล้วค้นเอาเงินสดในร้านไปเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ก่อนพากันขี่รถจักรยานซ้อนท้ายกันหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา และภาพวิดิโอวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้
พล.ต.ต.ประจวบ กล่าวว่า หลังตรวจสอบภาพวงจรปิดได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ประสานกับตำรวจทุกพื้นที่ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ออกไล่ล่าติดตาม กระทั่งได้เบาะแสว่าคนร้ายทั้งสองรายเคยลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สภ.หางดง โดยชกต่อยหญิงวัยกลางคนแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ที่ตลาดสันป่าเปา หมู่ 11 ต.หนองควาย อ.หางดง มาแล้วก่อนหน้านั้นเพียง 2-3 วัน ขณะกำลังปิดร้านตอนดึก ได้เงินสด 500 บาท และนำโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องไปขาย
"จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยจากโทรศัพท์มือถือที่ผู้ต้องหาทั้งสองรายชิงทรัพย์แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่ อ.หางดง นำมาเปรียบเทียบกับภาพวงจรปิดพร้อมสอบพยานบุคคล จึงติดตามไปจับกุมตัวคนทั้งสองได้ที่บ้านในเขตพื้นที่ อ.สันป่าตอง หลังถูกจับทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่า เคยทำงานรับจ้างทำอลูมิเนียม ก่อนจะหันมาเป็นโจรลงมือทำร้ายผู้เสียหายจริง โดยอ้างว่าต้องการหาเงินไปซื้อเหล้าซื้อเบียร์กิน แต่เป็นการทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
พล.ต.ต.ประจวบ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะเคยก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง และทำร้ายคนแก่แบบล้มแล้วยังต่อยซ้ำหลายครั้ง หลังถูกจับเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา "ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการแถลงข่าว ผู้ต้องหาได้ยกมือขอขมาต่อนางสำรวยผู้เสียหาย โดยนางสำรวยได้พูดสั่งสอนให้เลิกพฤติกรรมนี้เสีย พร้อมกับชี้ให้ดูบาดแผลจากการถูกชกต่อยว่าฟันโยกไป 5 ซี่ และยังปรากฎร่องรอยฟกช้ำที่ใบหน้าลำคอ และบริเวณเหนือราวอกอีกหลายแห่ง ต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจุบันต้องให้ญาติมาอยู่เฝ้าร้านเป็นเพื่อนเพราะไม่กล้าอยู่ตามลำพัง เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์โจรชิงทรัพย์มาทำร้ายซ้ำอีก