1. อมาลฟี อิตาลี
อมาลฟี ตั้งอยู่บนชายฝั่งราเวลโล ของอิาลี ที่นี่ได้รับการขนานนามว่ามีชายฝั่งที่สวยที่สุดในยุโรป จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่บ้านเรือนของชาวท้องถิ่นนั้นปลูกอยู่บนหน้าผาสูงชัน นอกจากนี้ตัวบ้านยังทาสีสันพาสเทลต่าง ๆ ทำให้กลายเป็นทัศนียภาพที่สวยแปลกตาไปอีกแบบ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโบสถ์ที่มีอายุหลายศตวรรษ ซึ่งให้บรรยากาศความงามแฝงด้วยความโรแมนติกแบบวินเทจ ๆ อีกด้วย
2. ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา
แม้ว่าลาสเวกัสจะได้ชื่อว่าเมืองคนบาป แต่ถึงกระนั้นทุก ๆ ปีก็มีคู่รักนับแสนคู่ที่เลือกมาขอแต่งงานและจัดงานแต่งกันที่นี่ ส่วนหนึ่งนอกจากความสวยงามของเมืองนี้ยามค่ำคืนแล้ว ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ สำหรับคู่รักไฮสปีดที่ต้องการขอแต่งงานปุ๊บก็จัดงานแต่งงานปั๊บได้เลย
3. เมาอิ ฮาวาย
ที่เมาอิแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องการได้รับเลือกให้เป็นเมืองแห่งการฮันนีมูน แล้วจะแปลกตรงไหนถ้าคุณจะคุกเข่าลงบนชายหาดเพื่อขอแฟนสาวแต่งงานที่นี่ ในเมื่อที่ฮาวายนี้มีชายหาดสีขาวสวย ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ยิ่งช่วงยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ยิ่งเป็นฉากโรแมนติกที่เหมาะจะคุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงานมากทีเดียว ว่ามั้ยล่ะ ?
4. เกาะมอริเชียส
เป็นเกาะนอกชายฝั่งแอฟริกาในมหาสมุทรอินเดียตะวันตกเฉียงใต้ ที่นี่มีชายหาดสีขาวบริสุทธิ์ เทือกเขาที่เขียวชอุ่มและน้ำทะเลสีฟ้าโคบอลต์ เรียกได้ว่าสวยเสมือนขึ้นสวรรค์จริง ๆ แถมยังเป็นสวรรค์ของนักตกปลาน้ำลึกอีกด้วย สำหรับคู่รักก็มีกิจกรรมให้ทำร่วมกันมากมาย ตอนกลางวันอาจจะเล่นกิจกรรมทางน้ำ ส่วนตอนเย็นก็เดินเล่นท่ามกลางฉากหลังที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน รับรองโรแมนติกจนคุณและคู่รักจะจำไม่รู้ลืมแน่นอน
5. เมอเชฟ ฝรั่งเศส
ที่เมเชฟแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งสกีในฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนผู้ที่นิยมชมชอบกีฬากอล์ฟก็มักจะมารวมตัวกันที่นี่ เพราะเมเชฟอยู่ใกล้กับเทือกเขาแอลป์ ดังนั้นหน้าร้อนจึงไม่ร้อนมาก ทำให้สามารถเล่นกอล์ฟได้อย่างสบาย ๆ
แม้ว่าเมอเชฟจะเมืองแห่งการเล่นสกี แต่ที่นี่ก็เหมาะมาก ๆ สำหรับคู่รักที่รักธรรมชาติ เพราะที่เมอเชฟแห่งนี้อยู่ใกล้กับเทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศส ยิ่งในช่วงฤดูหนาว การเอ่ยปากขอคู่รักของคุณแต่งงานท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลังยิ่งโรแมนติกสุด ๆ
6. เนวิส บริติชเวสต์อินดีส
ตั้งอยู่ในแถบทะเลแคริบเบียน ที่นี่นอกจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงามท่ามกลางผืนน้ำทะเลใสแล้ว ที่เนวิสแห่งนี้ยังมีฉากดวงอาทิตย์ตกในตำนานที่ว่ากันว่าเป็นช่วงเวลาที่สวยที่สุดบนเกาะนี้อีกด้วย
7. นิวยอร์คซิตี้ สหรัฐอเมริกา
แม้ว่านิวยอร์คจะได้รับการพูดถึงว่าเป็นเมืองแห่งความวุ่นวายแห่งหนึ่งของโลก แต่เชื่อหรือไม่ว่าท่ามกลางความวุ่นวายนี้ ในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟจากตึกระฟ้าต่าง ๆ ของเมืองนี้ กลับให้ความโรแมนติกอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองนี้จะได้รับความนิยมที่มีคู่รักเลือกที่จะมาขอแต่งงานกันที่นี่หลากหลายคู่
8. ออร์แลนโด ฟลอริดา
แน่นอนความโรแมนติกของเมืองนี้การันตีได้จากการเป็นที่ตั้งของ วอลต์ดิสนีย์เวิลด์รีสอร์ท เพราะหญิงสาวส่วนใหญ่มักจะเฝ้ารอเจ้าชายที่เธอใฝ่ฝัน และพร้อมจูงมือเธอไปสู่ความสุขด้วยกัน ลองนึกภาพตามดูว่าในช่วงเวลาที่เขาคนนั้นคุกเข่าลงตรงหน้าคุณแล้วขอแต่งงาน โดยมีปราสาทในเทพนิยายของวอลต์ดิสนีย์เป็นฉากหลัง มันจะโรแมนติกสักแค่ไหน
9. Riviera Nayarit เม็กซิโก
ริเวียร่า Nayarit ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก ที่นี่มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ทำมากมายไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือชมทัศนียภาพ ดูปลาวาฬ ว่ายน้ำกับโลมา ดำน้ำ เดินป่า ขี่จักรยาน หรือขี่ม้า
นอกจากนี้ที่ที่ ริเวียร่า Nayarit ยังมีชายหาดสีขาวที่ทอดยาวไปไกลสุดสายตา แถมบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดิน หรือยามเช้าที่พระอาทิตย์โผล่มาทักทายยิ่งเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษที่เหมาะแก่ การเอ่ยปากขอคนรักแต่งงานเป็นที่สุดอีกด้วย
10. ซานดิเอโก สหรัฐอเมริกาซานดิเอโกได้รับการเลือกให้ติด 1 ใน 5 เมืองที่ร่ำรวยที่สุดอเมริกา แถมเมืองนี้ยังไ้ดรับความนิยมในอันดับต้น ๆ ที่พลเมืองชาวอเมริกันอยากจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เพราะว่าที่เมืองนี้อากาศดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศฤดูหนาวไม่หนาวจนเกินไป ฤดูร้อนไม่ร้อนจนเกินไป มีฝนตกไม่เยอะมาก
และเมืองนี้ก็มีมุมโรแมนติกกับเขาเช่นกัน เพราะที่นี่คุณสามารถล่องเรือยอชต์ยามเย็นก่อนจะคุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงานได้ท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง รับรองโรแมนติกไม่แพ้ใครเลยทีเดียว