ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ก.พ. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสมาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พร้อมด้วยพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.สุรวัฒน์ บุตรวงษ์ ผู้แทน กอ.รมน. พล.ต.ท.สฤษดิ์ชัย เอนกเวียง ผบช.สันติบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส เป็นผู้แทนฝ่ายไทย
ขณะที่ฝ่ายมาเลเซียประกอบด้วย ดาโต๊ะมูฮัมหมัด ทาจูดดิน บินอับดุลวาฮับ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติมาเลเซีย พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ผู้บริหารระดับสูงของมาเลเซีย
สองฝ่ายร่วมพิธีลงนามความร่วมมือในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ระหว่างเลขาธิการ สมช.ของไทยกับมาเลเซีย และนายฮาซัน ตอยิบ หัวหน้าฝ่ายประสานงานต่างประเทศขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเน็ท ผู้รับมอบอำนาจพร้อมแกนนำอีก 5 คน ซึ่งการลงนามดังกล่าวทางการมาเลเซียได้อำนวยความสะดวกในเรื่องของสถานที่และประสานงาน
ทั้งนี้ การลงนามดังกล่าวจะส่งให้เกิดการพูดคุยเพื่อสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เป็นดำเนินการต่อเนื่องจากการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยและมาเลเซีย ซึ่งได้มอบหมายให้ สมช.ของ 2 ประเทศ ร่วมกันหาทองออกเพื่อสันติภาพ และประเทศไทยได้ดำเนินการตามนโยบายภายใต้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มเห็นต่างๆ ในหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มบีอาร์เอ็นได้เข้ามาร่วมหารือเป็นกลุ่มแรก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ และเชื่อมั่นว่าจะมีอีกหลายกลุ่มเข้ามาหารือในลักษณะนี้ ดังนั้น เมื่อเกิดการพูดคุยแล้วมั่นใจว่าบรรยากาศสันติภาพในพื้นที่จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการพูดคุยกับผู้แทนกลุ่มบีอาร์เอ็นยังไม่มีเงื่อนไขต่อรอง และจะมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง โดยภายใน 1-2 สัปดาห์จะมีการพูดคุยกับอีกหลายกลุ่ม ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นและเกิดความชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทางรัฐบาลมาเลเซียพร้อมเข้ามาสนับสนุนให้เกิดสันติภาพโดยเร็ว
ด้านนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าฯนราธิวาส กล่าวว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ดีขึ้น หากแกนนำกลุ่มที่เคลื่อนไหวจะช่วยส่งสัญญาณให้บุคคลที่ยังเคลื่อนไหวยุติการสร้างความวุ่นวาย เพื่อนำไปสู่การสร้างความปรองดอง สงบและสันติ ทั้งนี้ อยากเรียกร้องให้กลุ่มคนที่ก่อความไม่สงบกลับบ้าน ยุติการกระทำและออกมาพูดคุย เพื่อนำไปสู่ความปรองดองสร้างสันติสุขในพื้นที่ โดยทางจังหวัดพร้อมเข้าไปดูแลครอบครัวของกลุ่มคนเหล่านี้อย่างเต็มที่