สัญญาณอันตรายเตือนจากรถของท่าน ตรวจสอบกันบ้างเปล่า !!

 

สัญญาณเตือน บอกอาการผิดปกติของรถ ควรรีบตรวจเช็กและซ่อมแซมโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม ได้แก่

@ เครื่องยนต์ 

-เครื่องร้อนจัดเกินไป ขับไปได้ไม่เท่าไร ความร้อนก็ขึ้นสูง

-เครื่องเย็นเกินไป แม้จะขับมาระยะทางไกลพอสมควรแล้ว เข็มวัดอุณหภูมิยังไม่กระดิก 

-มีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์ 

@ ยาง 

-ดอกยางตรงกลางล้อ สึกหรอมากกว่าขอบ แสดงว่าเติมลมแข็งเกินไป 

-ดอกยางขอบล้อ สึกหรอมากกว่าตรงกลาง แสดงว่าเติมลมอ่อนเกินไป 

-ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่ามุมแนวตั้งของยางไม่ตรง 

-ดอกยางเป็นบั้งๆ แสดงว่าแนวของยางไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถ 

ควรนำรถเข้าอู่เพื่อตั้งศูนย์ล้อ หรือปรับแรงดันลมยางใหม่ 

@ คลัตช์ 

คลัตช์ที่มีปัญหา จะทำให้ควบคุมเกียร์ไม่ได้ อย่าละเลยอาการเหล่านี้ 

-คลัตช์ลื่น หรือเข้าคลัตช์ไม่สนิท หรือเหยียบแป้นคลัตช์แล้ว แต่ยังเข้าเกียร์ได้ยาก 

-คลัตช์มีเสียงดัง เมื่อเหยียบแป้นคลัตช์ 

-แป้นคลัตช์สั่นขึ้นๆ ลงๆ ขณะกำลังขับ 

@ เกียร์ 

เกียร์จะทำหน้าที่เปลี่ยนแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับความเร็ว สัญญาณบอกเหตุว่าเกียร์มีปัญหาคือ 

-มีเสียงดังทั้งในขณะอยู่ที่เกียร์ว่าง หรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งอยู่ 

-เปลี่ยนเกียร์ยาก มีอาการติดขัด หรือต้องขยับอยู่นาน 

-มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์ ทั้งๆ ที่เหยียบคลัตช์แล้ว 

-ห้องเกียร์มีน้ำมันหล่อลื่นไหลออกมา 

@ พวงมาลัย 

พวงมาลัยที่มีปัญหาเหล่านี้ จะทำให้อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ยางเฟืองท้ายชำรุดตามไปด้วย 

-พวงมาลัยหนัก หรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว 

-พวงมาลัยหลวมเกินไป โดยมีระยะฟรีเกิน 1 นิ้ว 

-พวงมาลัยสั่นในขณะขับ 

ควรนำเข้าศูนย์บริการเฉพาะยี่ห้อ 

@ เบรก 

ถ้าพบว่าเบรกมีอาการผิดปกติ ต้องรีบแก้ไขทันที 

-เบรกลื่น หยุดรถไม่อยู่ แม้จะไม่ได้ลุยน้ำ 

-เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง 

-แป้นเบรกยังจมลึกลงไปทั้งๆ ที่ถอนเท้าออกมาแล้ว 

ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมเบรกทันที 

@ ไฟชาร์จ 

ไฟชาร์จ ควรจะปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัดทุกครั้งที่สตาร์ตเครื่อง และเมื่อสตาร์ตติดแล้ว ครู่หนึ่งก็จะดับลง แต่ถ้าไฟชาร์จไม่สว่าง หรือสว่างแล้วไม่ยอมดับ อาจเกิดจากไดชาร์จผิดปกติหรือสาเหตุอื่น ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ รีบนำรถเข้าอู่ไดชาร์จหรือระบบไฟ 

@ หลอดไฟ 

หลอดไฟขาดบ่อยๆ หรือต้องเติมน้ำกลั่นในหม้อแบตเตอรี่บ่อยเกินไป แสดงว่าอุปกรณ์ที่เราเรียกว่า "เรกูเลเตอร์" ทำหน้าที่ควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมชำรุด ควรนำรถเข้าอู่ระบบไฟ เพื่อซ่อมเรกูเลเตอร์ หรือหากชำรุดก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่ 

@ น้ำมันหล่อลื่น 

ถ้าสัญญาณไฟเตือนระบบน้ำมันหล่อลื่นสว่างขึ้นในขณะขับขี่รถยนต์ หมายถึงว่า เครื่องยนต์กำลังทำงาน โดยปราศจากน้ำมันหล่อลื่น รีบนำรถไปยังอู่ที่ใกล้ที่สุดทันที แต่ถ้าอู่อยู่ไกล ให้เติมน้ำมันเครื่องใส่ลงในถังน้ำมันหล่อลื่นไปก่อนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ถ้าเป็นสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันหล่อลื่นแห้ง ควรใช้รถลากไปอู่ซ่อม

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...