ตึกหดได้ มีจริงในกรุงโตเกียว เขาทำลายตึกกันแบบไหน
ไม่ให้เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม?
กรุงโตเกียว หนึ่งในมหานครของโลกที่มีประชากรหนาแน่นและมากที่สุดในโลก ที่ดินที่นี่มีค่ามากกว่าทองคำ อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่จึงสร้างติดกันอย่างแออัด การรื้อถอนหรือทำลายจึงเป็นเรื่องที่ยาก และวิธีการ"ระเบิดทิ้ง"แบบเก่า นอกจากก่อให้เกิดฝุ่นละอองจำนวนมหาศาล ยังอาจกระทบต่ออาคารที่อยู่ติดกันด้วย
รายงานระบุว่า ภายในปีนี้ คาดว่าจะมีอาคารสูงในญี่ปุ่นที่ต้องถูกทำลายราว 100 แห่ง แต่บริษัท ไทเซอิ อีดคโลจิคอล รีโปรดักชัน ซิสเท็ม มีวิธีการที่ดีกว่านั้นในการทำลายอาคารเก่า ที่ทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่กระทบประชาชนทั่วไป
ลำดับภาพการทำลายตึกแห่งหนึ่งขนาดความสูง 105 เมตร ในกรุงโตเกียวเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้วิธีการเช่นเดียวกันนี้
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ โครงการทำลายอาคารโรงแรมแกรนด์ พรินซ์ โฮเทล อากาซากะ ซึ่งมีความสูงราว 138 เมตร ที่ใช้เทคนิคการทำลายแบบใหม่ล่าสุด โดยการทำลายอาคารจากชั้นบนลงมาชั้นล่างทีละชั้น ไม่มีทั้งเศษวัสดุ ปราศจากฝุ่นละออง และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คนงานใช้ช่วงบนของอาคารซึ่งทำสร้างเป็นพื้นที่ปิด สำหรับให้คนงานทำงาน โดยมีเสาชั่วคราวเป็นตัวรองรับ ที่จะเคลื่อนลงอย่างช้าๆโดยใช้แม่แรง ขณะที่ความสูงจะค่อยหายไปทีละชั้น ขณะที่เครนที่อยู่ภายในจะค่อยทำหน้าที่รื้อทำลายพื้นที่ในแต่ละชั้่น
โดยนับตั้งแต่การประกาศปิดกิจการของโรงแรมเมื่อต้นปี 2011 เพื่อบูรณะใหม่ ก่อนที่จะเปิดเป็นศูนย์อพยพชั่วคราวของผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคมปีเดียวกัน กระทั่งปัจจุบัน ความสูงของโรงแรมลดลงแล้วกว่า 30 เมตร และจะยังคงใช้วิธีการดังกล่าวกระทั่งการทำลายสิ้นสุดที่ชั้นล่าง
บริษัทเผยว่า วิธีการทำลายตึกแบบใหม่นี้ ช่วยลดเสียงจากไซต์งานเมื่อเทียบกับวิธีเดิมได้กว่า 25% และช่วยลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นได้กว่า 90% อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยขณะที่เครนกำลังเคลื่อนย้ายเศษอิฐและปูน มันยังช่วยสร้างกระแสไฟฟ้าเพื่อนำไปใช้กับอุปกรณ์ชนิดอื่น