นายไคลฟ์ พาล์เมอร์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวออสเตรเลีย เปิดเผยแผนการก่อสร้างเรือ"ไททานิค 2" ซึ่งเน้นการตกแต่งเลียนแบบเรือไททานิคยุคโบราณ  ซึ่งจมลงในมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อเดือนเมษายน 1912

 
นายพาล์เมอร์ เปิดเผยพิมพ์เขียวของเรือไททานิก 2 ในการแถลงข่าวที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ เขาปฏิเสธที่จะเรียกเรือไททานิค 2 ของเขาว่าเป็นเรือที่ไม่มีวันจม โดยเรือไททานิค 2 จะก่อสร้างโดยบริษัทซีเอสซี จิ้นหลิง ชิพยาร์ด ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือที่ถือหุ้นโดยรัฐบาลจีน และเริ่มให้บริการผู้โดยสารได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2016

นายพาล์มเมอร์ ซึ่งไม่เปิดเผยมูลค่าการก่อสร้าง ระบุว่า เรือไททานิกลำเดิมคือ"เรือในฝัน" และเรือไททานิก 2 จะเป็นเรือลำที่ความฝันเป็นจริง  เขาได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปพร้อมกับเรือไททานิก 2 ที่คาดว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี กระทั่งสานต่อเป็นเรือไททานิก 3 ได้

เขากล่าวว่า ได้มีผู้ลงทะเบียนในเว็บไซต์ของเรือแล้วกว่า 40,000 คน โดยมี 16 รายที่เสนอเงินระหว่าง 750,000-1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขอร่วมเดินทางครั้งประวัติศาสตร์

เขายืนยันว่า ไททานิค 2 จะมีการแบ่งชั้นผู้โดยสารชัดเจน คล้ายกับเรือไททานิคลำต้นแบบ โดยบริษัทของเขาจะเปิดขายตั๋วโดยสารชนิดพิเศษ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารที่ต้องการสัมผัสรสชาติการเดินทางแบบครบทุกระดับชั้น ไม่พลาดประสบการณ์ดังกล่าวตลอดระยะเวลา 6 วันของการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกบนเรือสำราญลำนี้

ทั้งนี้ เรือไททานิก 2 จะมีขนาดลำเรือยาว 264.9 เมตร หรือยาวกว่าเรือลำเดิมเพียง 3 นิ้ว และมีระวางเรือ 55,800 ตัน แล่นด้วยความเร็ว 24 น็อต และสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุด 2,435 คน และลูกเรืออีก 900 คน ภายในเรือยังมียิมเนเซียม ห้องอาบน้ำแบบเตอร์กิช บาธ, สนามสควอช, สระว่ายน้ำ, โรงภาพยนตร์ และคาสิโน โดยการเดินทางเที่ยวแรกมีกำหนดเริ่มจากนครเซี่ยงไฮ้ ไปยังเมืองเซาธ์แธมตันของอังกฤษ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังนครนิวยอร์ก

การออกเแบบเรือไททานิค 2 จะมีรูปแบบและการตกแต่งภายในที่ไม่แตกต่างจากเรือไททานิคลำเดิมมากนัก แต่จะใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบสมัยใหม่ รวมทั้งติดตั้งเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งรวมถึงเครื่องปรับอากาศ และระบบไว-ไฟ อีกทั้งมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับหลักมาตรฐานความปลอดภัยด้านการเดินเรือในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการติดตั้งเรือชูชีพ ที่เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดบนเรือ เพื่อหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรม หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับเรือไททานิคลำต้นแบบ ซึ่งมีเรือชูชีพที่ทำจากไม้เพียง 16 ลำ ที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้พียง 1,178 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้โดยสาร 1,502 คน เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 1912