เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก acidcow.com
ภาพแนวกำแพงสีขาวสะอาดตาอันเกิดจากผนังหินปูนของบ้านเรือนขนาดย่อมที่ปลูกติดกันเป็นทิวแถว กลายเป็นภาพจำที่น่าประทับใจ และเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับเมือง อัลเบอโรเบลโล (Alberobello) แห่งหุบเขา Itria ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ราวกับว่าเป็นเมืองแห่งมนตรา บ้างก็ว่าเหมือนกับหมู่บ้านฮอบบิทในมิดเดิลเอิร์ธเลยทีเดียว
อัลเบโรเบลโล เป็นเมืองขนาดกลาง ที่มีผู้อาศัยอยู่ราว 11,000 คน ในจังหวัดบารี ทางตอนใต้ของอิตาลี และมันยังเป็นเมืองที่เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยือนในฐานะเมืองมรดกโลก ซึ่งองค์การยูนิเซฟได้มอบตำแหน่งให้ตั้งแต่ปี 1996 สำหรับจุดเด่นของอัลเบอโรเบลโลที่ผู้มาเยี่ยมเยือนทุกคนต้องไม่พลาดที่จะถ่ายรูปที่ระลึกกลับไป ก็คือ Trulli หรือบ้านเรือนที่ก่อขึ้นมาจากหินปูนและหลังคาทรวงกรวย โดยสร้างขึ้นด้วยวิธีการสร้างบ้านแบบโบราณที่เรียกว่า Dry stone ซึ่งเป็นการก่อหินแต่ละก้อนค่อย ๆ ไล่เรียงกันไปอย่างแข็งแรง และเข้าล็อกกันอย่างแน่นหนาตามธรรมชาติโดยไม่ต้องอาศัยปูนซีเมนต์เลยแม้แต่น้อย โดยหินขนาดใหญ่ที่ใช้ก่อขึ้นมานั้นก็เป็นหินปูนที่สามารถหาได้ในท้องที่นั้นนั่นเอง นับตั้งแต่หินก้อนแรกถูกวางลงจวบจนก้อนสุดท้ายที่วางประกอบไปอย่างมั่นคง ก็ทำให้บ้าน Trulli หลังน้อย ๆ อยู่ผ่านยุคสมัยต่าง ๆ มาได้กว่า 600 ปีแล้ว
ความน่าอัศจรรย์ของ Trulli ยังไม่หมดแค่ความคงทนถาวรของมันเท่านั้น แต่มันยังถูกสร้างขึ้นอย่างชาญฉลาดเป็นที่สุด ด้วยการก่อผนังแบบสองชั้นและเติมช่องว่างระหว่างชั้นด้วยเศษหินที่แตกหักเอาไว้จนเต็ม ผนังที่ได้นี้จึงไม่ใช่มีเพียงความแข็งแรง แต่ยังเป็นช่วยป้องกันลมหนาว และรักษาความอบอุ่นภายในบ้านได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีการฝังส่วนของที่ก่อกองไฟไว้ในผนัง จึงทำให้อยู่ได้สบายแม้ในฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีการสร้างที่เก็บน้ำไว้รองรับน้ำฝนที่จะไหลมาตามส่วนที่ยื่นออกมาของชายคา จึงรับประกันได้ว่าจะยังคงมีน้ำไว้ใช้อุปโภคแม้จะอยู่กลางฤดูร้อนที่ร้อนจัดก็ตาม เรียกได้ว่านี่คงเป็นบ้านประหยัดพลังงาน หรือ Eco house หลังแรก ๆ ของโลกก็คงจะไม่ผิดนัก
แม้ว่าปัจจุบันนี้จะไม่มีใครในอัลเบอโรเบลโลสร้างบ้านด้วยกรรมวิธี Dry stone ขึ้นมาอีกแล้วก็ตาม แต่บ้าน Trulli สีขาวหลังน้อย ๆ ที่หลงเหลืออยู่ก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยให้ชาวอัลเบอโรเบลโลได้ใช้จวบจนปัจจุบัน และกลายเป็นสถานที่อีกแห่งที่แฝงมนต์เสน่ห์ของความสวยงามเรียบง่ายตามตำรับอิตาลีพื้นเมืองทางตอนใต้เอาไว้อย่างเหนียวแน่น
แค่ได้เห็นรูปสวย ๆ ของบ้านสีขาวหลังย่อม ๆ ที่อยู่ติดเรียงรายกันเป็นแถว กับทางเดินที่ลดหลั่นเป็นขั้นบันไดลาดลงไปตามความชันของหุบเขา ช่างงดงามจนใจแทบจะหลุดลอยไปหา หากได้ไปเยี่ยมเยือนให้เห็นกับตา และถ่ายรูปสวย ๆ ด้วยมุมมองของตัวเองกลับมาก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วสักวันหนึ่งเราคงจะได้พบกันนะ "อัลเบอโรเบลโล" ...