เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 26 ก.พ. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ บช.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายโอ๋ อายุ 18 ปี นายตั้ว อายุ 18 ปี และ นายเอ็ม อายุ 17 ปี (ทั้งหมดนามสมมุติ) เป็นนักเรียนของวิทยาลัยเทคโนแห่งหนึ่ง พร้อมของกลาง อาวุธมีดอีโต้ ยาว 60 ซม. จำนวน 2 เล่ม
โดย พล.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 10 ม.ค.เวลาประมาณ 16.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาท และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดปากซอยสำนักงานประปาสมุทรปราการ ถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงไปตรวจสอบพบว่ากลุ่มนักเรียนดังกล่าวได้แยกย้ายหลบหนีไปแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายจักรชัย หรือแบ๊งค์ นุริตานนท์ อายุ 16 ปี นักศึกษาสถาบันวิทยาลัยเทคโนโลยีศรีวัฒนาบริหารธุรกิจฯ ได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่ศรีษะ ข้อนิ้วมือ และนิ้วมือขาด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า
จากการสอบสวนทราบว่า มูลเหตุของเรื่องเกิดจาก นักเรียนกลุ่มผู้ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ นักเรียนฝ่ายอริ ส่วนผู้บาดเจ็บไม่ได้เรียนอยู่ทั้ง 2 สถาบัน แต่อยู่ในที่เกิดเหตุเท่านั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อยู่ร่วมกับกลุ่มที่ก่อเหตุ และใช้อาวุธมีดฟัน นายจักรชัย ได้รับบาดเจ็บ จึงเข้าจับกุม
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันใช้อาวุธมีดฟันผู้บาดเจ็บจริง เพราะนึกว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนคู่อริ โดยก่อนเหตุระหว่างที่นั่งรถโดยสารประจำทางสาย 25 กลับบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ถูกนักเรียนคู่อริปาระเบิดใส่ จึงวิ่งกรูจากรถลงไปใช้อาวุธมีดไล่ฟันผู้บาดเจ็บเพราะคิดว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนคู่อริ ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมตัว สำหรับผู้ต้องหาได้กล่าวขอโทษผู้เสียหายที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และอยากฝากถึงกลุ่มเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุขอให้เข้ามามอบตัวเพราะเจ้าหน้าที่มีข้อมูลของทุกคนที่ร่วมก่อเหตุแล้วเบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันพกอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายจักรชัย หรือน้องแบงค์ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ไม่ติดใจเอาความเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ชั่ววูบ พร้อมให้อภัย และอยากให้กลุ่มผู้เหตุที่เหตุที่ยังหลบหนีเข้ามามอบตัวกับตำรวจ และอยากฝากเตือนว่าหากจะทำอะไรอยากให้คิดก่อน เพราะอาจเกิดเรื่องเข้าใจผิดในลักษณะนี้ขึ้นอีก