เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.ศุภชัย เหลืองสุขเจริญ รอง ผกก.สส.สภ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่ร้านซ่อมรถยนต์ อู่ก่วยเซอร์วิส ถนนสายพนมสารคาม-บ้านสร้าง หลังตลาดศูนย์การค้า ศิริพนม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย  พล.ต.ต.สมบัติ บัวเรือง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.วินัย จิตต์ปรุง รองผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผกก.สภ.พนมสารคาม พ.ต.อ.พลฑิตย์ ไชยรส ผกก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.ไชยพต พ่วงแพ รองผกก.สส.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.ศุภชัย เหลืองสุขเจริญ รองผกก.สส.สภ.พนมสารคาม พ.ต.ท.สิทธิพล ศิริธานิยภักดี รองผกก.ป.สภ.พนมสารคาม พ.ต.ท.หญิงนันนภัส อิ่มพร นักวิทยาศาสตร์ สบ.2 พิสูจน์หลักฐานและกู้ภัยพนม รุดไปตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุเป็นตึกชั้นเดียวเปิดเป็นอู่รับซ่อมช่วงล่างรถยนต์ มีรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีดำ ทะเบียน 7316 ฉะเชิงเทรา จอดหันหน้าเข้าร้าน สองล้อหน้ายกสูงเล็กน้อย ที่พื้นที่ข้างรถด้านซ้ายมือ พบรอยเลือดหยดเป็นทางไปถึงถนนหน้าร้านและกองเลือดกองใหญ่ที่หน้าร้านซ่อมแอร์ที่อยู่ติดกัน ส่วนผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บมีพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลพนมสารคาม ก่อนหน้าตำรวจจะไปถึงและเสียชีวิตระหว่างนำส่ง ทราบชื่อว่า นายประจบ เนาวโอภาส อายุ 43 ปี อยู่ม. 14 ตำบลหนองแหน อ.พนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 ด้วย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.เข้าที่ชายโครงด้านซ้าย 1 นัด แขนซ้ายทะลุรักแร้ขวา 1 นัดและท้ายทอยอีก 1 นัด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ ที่พื้นหน้าห้องเลขที่ 1601/ 25 ซึ่งอยู่ติดกัน 4 ปลอก รวมทั้งหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่ที่ล้อหน้าซ้ายรถยนต์กระบะของผู้ตายอีก 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายประจบ หรือ ผู้ใหญ่จบ ซึ่งนำรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีดำ ทะเบียน 7316 ฉะเชิงเทรา ไปให้อู่ก่วยเซอร์วิส ซ่อมผ้าเบรกล้อด้านหน้า  ระหว่างที่นายประจบ กำลังก้มดูช่างถอดล้ออยู่หน้าร้าน มีรถยนต์เก๋ง สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน ศจ 9688 กรุงเทพฯ ไปจอดอยู่ริมถนนในเลนที่สอง ห่างจากอู่ประมาณ 15 เมตร จากนั้นชายคนที่นั่งคู่คนขับเปิดประตูเดินลงมา พบมีรูปร่างสันทัด ผิวเนื้อดำแดง ไว้ผมรองทรงหน้าตาดี อายุประมาณ 20 ปีเศษ เดินผ่านไปทางลานจอดรถด้านข้างอู่ ไปยืนหยุดอยูข้างป้ายชื่อร้านระยะห่างจากผู้ใหญ่จบประมาณ 5 เมตร พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงใส่จำนวน 4 นัด ถูกผู้ใหญ่จบ แต่ผู้ใหญ่จบพยายามตั้งสติ และวิ่งอ้อมไปที่ประตูรถของตนเองอีกด้านหนึ่งพยายามเปิดประตูรถเพื่อหยิบอาวุธปืนประจำตัว แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เซถลาไปล้มลงและหมดสติอยู่ที่ร้าน

 ด้านนายจร เนาวโอภาส อายุ 46 ปี อยู่หมู่ 14 ตำบลหนองแหน ประธานสภา อบต.หนองแหน พี่ชายนายประจบ เปิดเผยว่า น้องชายเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 ตำบลหนองแหน อาชีพหลักเป็นผู้รับเหมาถมที่ดินทั่วไปในเขตอำเภอพนมสารคาม อำเภอแปลงยาว ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายโทรศัพท์บอกว่า ได้งานถมที่ดินแห่งใหม่ ในเขตอำเภอพนมสารคาม แต่จะนำรถไปเปลี่ยนผ้าเบรกก่อน แต่ไม่ได้บอกว่าซ่อมที่อู่ไหน มาทราบอีกครั้ง น้องชายก็ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

 “ผมมั่นใจว่าน้องชายทำธุรกิจรับเหมาถมที่ดินมานานแล้ว และไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งกับผู้รับเหมารายอื่นใด แต่จะเกี่ยวข้องกับการที่น้องชายเป็นแกนนำคัดค้านต่อต้านกลุ่มผู้มีอิทธิพลและเจ้าของกิจการรีไซเคิลในพื้นที่ที่มีการฟ้องร้องกันหรือไม่ หรือล่าสุดผู้ตายก็ร่วมคัดค้านบริษัทเอกชนที่มีการลักลอบนำกากสารเคมีไปทิ้งในพื้นที่ตำบลหนองแหน จนสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านในพื้นที่เป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นเรื่องของตำรวจที่จะต้องสืบสวนสอบสวน โดยเฉพาะก่อนที่น้องชายตนเองจะถูกยิงตายราว 3 สัปดาห์ พบมีคนต้องสงสัยขับรถจักรยานยนต์ ซีบีอาร์ สะกดรอยตามพร้อมถ่ายรูปรถยนต์กระบะคันที่น้องชายใช้เป็นประจำ คาดว่าถูกปองร้ายแน่นอน จึงเตรียมอาวุธปืนติดตัวไว้ในรถ 3 กระบอก คือขนาด 11 มม. 1 กระบอก ขนาด 9 มม. 1 กระบอกและลูกซองยาวอีก 1 กระบอก แต่ก็มาถูกยิงเสียชีวิตจนได้ ก็ขอให้ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายจร เนาวโอภาส

 ด้านพ.ต.อ.วินัย เปิดเผยว่า จากการสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเชื่อว่า คนร้ายได้วางแผนติดตามพฤติกรรมผู้ตายมาพอสมควร น่าจะเป็นมืออาชีพ มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน เพราะยิง 4 นัดเข้าเป้าถึง 3 นัด และถูกจุดที่สำคัญๆ ทั้งนั้น จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและบริเวณห้องใกล้เคียง มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ ซึ่งได้ให้พนักงานสอบสวนประสานงานเพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะเดียกวันได้กระจายกำลังชุดสืบสวนของภูธรจังหวัดและสภ.พนมสารคามลงพื้นที่หาข่าวและเบาะแสของกลุ่มคนร้าย โดยเฉพาะยานพาหนะที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ สำหรับประเด็นการสังหารนั้น ก็ยังไม่ฟันธงทั้งในเรื่องเป็นแกนนำคัดค้านการลักลอบทิ้งกากสารเคมีในพื้นที่ หรือมีความขัดแย้งในธุรกิจรับเหมาถมที่ดินหรือไม่ ยังต้องรอสอบพยานบุคคลโดยเฉพาะคนใกล้ชิดเพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนหาตัวคนร้าย ซึ่งตำรวจระดมกำลังทำงานอย่างอย่างเต็มที่