ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเลิศ เทศน์แจ่ม อายุ 61 ปีอดีตผู้ใหญ่บ้านคลองสีนวล อยู่บ้านเลขที่ 64/2 หมู่ที่ 6 ต.ธัมรงค์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชรว่า พบคนชอบกินจิ้งจก เพราะเชื่อว่าเป็นยาแก้โรคภัยไข้เจ็บ จึงรีบไปตรวจสอบ พบ นายดอกรัก อุ่มแสง อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/1 บ้านหนองจิก ต.จำลอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง กำลังจับกลุ่มพูดคุยกับชาวบ้าน โดยมือถือถุงพลาสติกใส่จิ้กจกที่เพิ่งจับมาได้ 2 ตัว
จากนั้นนายดอกรักก็ได้โชว์จับจิ้งจกจ่อที่ปาก ใช้นิ้วมือดีดไปที่หัวของจิ้งจกและจับส่วนหัวยัดเข้าปาก แล้วดื่มน้ำตาม ส่งจิ้งจกชะตาขาดลงไปในกระเพาะ พร้อมกับแสดงท่าทางกระชุ่มกระชวย เหมือนเพิ่งได้กินยาโด้ปชั้นดี ก่อนจะกล่าวว่า กินจิ้งจกติดต่อกันมาเป็นปีที่ 12 แล้ว เพราะเชื่อว่าสามารถแก้โรคภัยได้ เมื่อก่อนเคยเป็นโรคลมชัก แต่เมื่อกินจิ้งจกเข้าไปแล้วก็หายเป็นปลิดทิ้ง จึงกินติดต่อกันมานานถึง 12 ปี ทั้งนี้เมื่อตอนสมัยตนเป็นเด็กคนโบราณมักย่างจิ้งจก-ตุ๊กแก กินกันเยอะ เพราะเชื่อว่า รักษาโรคภายในท้อง บำรุงร่างกายและ เพิ่มพลังทางเพศอีกด้วย
นายดอกรัก กล่าวต่อว่า วิธีกินจิ้งจกมีหลายอย่าง ทั้งนำไปย่าง หรือ ใช้มะขามเปียกห่อตัวจิ้งจกแล้วถึงจะกิน ทุกวันนี้พบเจอที่ไหนก็จับกินได้เลย เพื่อสุขภาพ 2-3 วัน ถึงจะกินบำรุงสักครั้งกำลังดี เสียดายสมัยนี้หากินยาก บางครั้งต้องเว้นระยะไปถึงครึ่งเดือน เพราะจิ้งจกเหลือน้อยแล้ว
ภายหลังนายดอกรัก ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเสร็จปรากฏว่า นายบุญมี เหล่าแจง อายุ 49 ปี ที่ยืนดูอยู่เกิดนึกอยากพิสูจน์บ้าง จึงได้เปิบจิ้งจกตามนายดอกรักเข้าไป 1 ตัว โดยขณะกลืนจิ้งจกลงไปนั้น มีสีหน้าอาการพะอืดพะอม พร้อมบอกว่าเพิ่งกินจิ้งจกเป็นครั้งแรก เพราะอยากลองตามคำบอกเล่าของนายดอกรักที่อ้างว่าแก้โรคภัย รวมทั้งเพิ่มพลังทางเพศได้
ด้าน พ.ญ.รจนา ขอนทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลกำแพงเพชร กล่าวว่าการรับประทานสัตว์ทุกชนิดสุกๆดิบ อาจติดเชื้อจะทำให้เกิดท้องเสีย อุจจาระร่วง และสัตว์ที่รับประทานเข้าไปถ้ามีพยาธิ ก็จะไปสะสมในร่างกายก่อให้เกิดโรค ทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ ได้ ข้อแนะนำคือไม่ควรรับประทาน การรับประทานจิ้งจกเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่ไม่มีการรับรองด้านสรรพคุณอย่างถูกต้อง.