เพราะในความเป็นจริงแล้ว มีด้วยหรือ

ที่ คนเราจะเป็นที่ 1 ตลอดกาล และตลอดไป ยิ่งในสถานการณ์ที่รู้ว่า ทางเดินข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ตรงกันข้ามอาจจะมีแต่หนาม ซึ่งหากยังคิดว่าจะเป็น

เบอร์ 1 ยังไง ๆ ก็ต้องเหนื่อยและเจ็บตัวเพราะหนามกุหลาบแน่นอน ! 

แต่ ก็อย่างที่รู้กันว่า ในโลกแห่งทุนนิยม ใคร ๆ ก็ย่อมอยากเป็นเบอร์ 1 อยากทำกำไรได้สูง ๆ เพราะที่ 1 ย่อมหมายถึงความได้เปรียบ ความพิเศษ การเหนือกว่าคนอื่น การเร็วกว่าคนอื่น และยังหมายถึง

อะไรอีกหลาย ๆ อย่างที่ล้วนแล้วแต่สื่อความไปในทางที่ดีกว่า มากกว่า เร็วกว่าเสมอ

นี่ เป็นเพียงบางส่วนที่ว่าด้วย "คุณค่าของการเป็นที่ 1" แต่ก่อนที่จะไปถึงตรงนั้น ขอวกกลับมาถึงสาเหตุที่ประเด็นนี้สะดุดใจผมก่อนนะครับ

เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา เอไอเอส

ได้จัดงานที่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมา

อย่างต่อเนื่องก็คือ AIS Vision ซึ่งปีนี้เราใช้คำว่า Moving Forward เป็น Theme ของงาน เพราะการที่ กสทช.ท่านได้มอบ

ใบ อนุญาต 3G ให้แก่ Operator ย่อมทำให้เหมือนมีสปริงบอร์ดช่วยให้ประเทศไทย Moving Forward ได้อย่างรวดเร็วและเข้มแข็ง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญและเป็นจุดเปลี่ยนอีกขั้น รวมถึงเป็นความท้าทายที่จะใช้วาระนี้สร้างโอกาสทางการแข่งขันให้ได้มากที่ สุด โดยภาพของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ประกอบไปด้วย 3 เรื่องหลัก คือ

- การเติบโตของตลาด Smart Device เพราะลูกค้าจะ Upgrade มาสู่เครื่องที่รองรับ 3G มากขึ้น

- โอกาสมหาศาลสำหรับการพัฒนา Mobile Application ที่จะทำให้กลุ่ม Developer เปิดตลาดใหม่ ๆ ได้

- การประยุกต์ใช้ 3G เพื่อโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การศึกษาทางไกล, การสาธารณสุขทางไกลที่จะชัดขึ้น

สำหรับบทบาทของเอไอเอส เราพร้อมเป็น 1 ฟันเฟืองที่จะทำให้อุตสาหกรรมนี้

ก้าวไปอย่างเข้มแข็ง ซึ่งการที่จะมีส่วนช่วยได้ ตัวเราเองก็คงต้องเข้มแข็งเสียก่อนด้วย !

ผู้ ที่อยู่ในวงการ Telecom คงรู้ดีว่า การมาถึงของ 3G สำหรับผู้ประกอบการ มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะเอไอเอส ซึ่งเกิดมาเหมือนลูกภรรยาหลวงที่สามีไม่ค่อยรัก ด้วยปริมาณคลื่นความถี่ 900 MHz ที่มีอยู่น้อยกว่าทุกราย ทำให้ตลอดระยะเวลา 23 ปีที่ให้บริการมา วิศวกรเอไอเอสได้กลายเป็นพวก "ประหยัดมัธยัสถ์" แบบไม่น่าเชื่อ เพราะ "Reuse" ความถี่กันจนตัวเป็นเกลียว !

ซึ่งคนพันธุ์อึดอย่างเอไอเอสก็ไม่ยอมแพ้ ข้อจำกัดทางเทคนิคไม่ได้ทำให้เรางอมือเท้า ตรงกันข้ามเป็นแรงผลักดัน

ให้ เราสู้ จนทำให้ภาพรวมที่ผ่านมา เราก้าวสู่ความเป็นเบอร์ 1 ที่ลูกค้าให้การยอมรับเรื่องความครอบคลุมของเครือข่ายและคุณภาพการใช้งาน ตลอดเวลานั้น

เราก็ภาคภูมิใจและรับคุณค่าของการเป็นที่ 1 ไปพร้อมการพยายามประคับประคองกันไม่ให้เหลิงจนลืมตัว ละเลยการทำหน้าที่เพื่อลูกค้า เรียกได้ว่าเป็นเบอร์ 1 ที่ยังคงต้องทำงานหนักเสมอ ! ยิ่งเมื่อเข้าสู่ยุค Data เบ่งบาน (3G จริงก็ยังไม่มา !) เรายิ่งต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ความถี่ 900 MHz ซึ่งมีน้อยนิดพอรองรับความต้องการใช้ Data ได้ ซึ่งยากมาก !

ช่วง เวลานี้แหละครับที่ความเป็นเบอร์ 1 ของเราเริ่มกลายเป็นศรที่ย้อนมาทิ่มอกเราซะเอง เพราะไม่สามารถหนีกฎธรรมชาติว่าด้วยข้อจำกัดของความถี่ได้ คุณภาพเครือข่ายที่เคยได้รับการยอมรับจึงเริ่มลดลง.. 

คุณค่าของความ เป็นเบอร์ 1 อีกด้านเริ่มแสดงผลในทางเพิ่มแรงกดดันจากความคาดหวัง ซึ่งย่อมมากกว่าที่มีต่อเบอร์รอง ๆ ชาวเอไอเอสเราจึงถูกฝึกว่าต้องอดทนและยอมรับเสียงบ่นของลูกค้าไปพร้อม ๆ กับการทำงานหนักกว่าคนอื่นเป็น 100 เท่า เพื่อให้สามารถมอบบริการตอบความคาดหวังของลูกค้าได้มากกว่าเดิม

กลับ มาในวันงาน AIS Vision ที่เล่าค้างไว้ เราได้เรียนเชิญท่านประธาน กสทช.และท่านประธาน กทค.ให้เกียรติใช้ VDO Call และ Speed Test บน 3G 2100 MHz อย่างเป็นทางการครั้งแรก เพื่อยืนยันให้เห็นถึงความสามารถของ 3G ในทางทฤษฎีอย่างชัด ๆ เพราะได้ความเร็วถึง 33 Mbps เรียกเสียงปรบมือได้ชนิดที่

ทีมวิศวกรที่ Stand by อยู่ใต้เวทีหน้าบานไป 5 วัน หลังจากบน เอ๊ย ลุ้นกันจนลืมหายใจว่า Murfy′s Law ท่านจะมาเยือนหรือไม่ ซึ่งงานนี้ท่านก็แวะมาเล็ก ๆ 

แต่เอาเป็นว่าผ่านไปได้ด้วยดี (ถึงขั้นทีมงานเอาชอตนี้ไปเขียนล้อผมเป็นการ์ตูนเลยทีเดียว เพราะอาการคงออกจนเห็นชัด !)

วัน นั้นผมพูดว่า เราจะเริ่มให้บริการ 3G ได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2556 นี้แน่นอน และย้ำแบบแมน ๆ ด้วยว่า ในสถานการณ์แบบนี้ แม้จะมีคลื่น 3G 2100 MHz แล้วก็จริง แต่เราก็อาจจะไม่ได้เป็นที่ 1 ในใจท่านเหมือนเคยในช่วงแรก เพราะการที่เพิ่งได้รับใบอนุญาตเมื่อปลายปี ทำให้การขยายเครือข่ายช้ากว่าคนอื่น คุณภาพย่อมมีปัญหาบ้าง แต่ชาวเอไอเอสกว่า 9,000 ชีวิตสัญญาว่า เราจะทำงานให้หนักกว่าที่เคย เพื่อกลับมาเป็นที่ 1 ในใจท่านอย่างเต็ม 100 เหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมา

ครับ นี่คือคุณค่าของความเป็นเบอร์ 1 ที่ผมอยากสื่อว่า ทำให้เราเรียนรู้ที่จะแบกรับให้ได้กับความคาดหวังที่มากกว่าเบอร์รองหลาย เท่า เรียนรู้ที่จะรับให้ได้กับการเหนื่อยมากกว่าคนอื่น แต่ผลที่ได้กลับเพียงแค่เสมอตัว เรียนรู้ที่จะอดทนกับความหมั่นไส้จากคนบางกลุ่ม เรียนรู้ที่จะลด Ego ลง เรียนรู้การทำงานหนักกว่าและหนักขึ้นเรื่อย ๆ เรียนรู้ที่จะสร้างแรงผลักดันอย่างมาก รวมถึงเกิดการเรียนรู้ในอีกล้าน ๆ เรื่องอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

ตราบเท่าที่เรายังวิ่งไล่ล่าความสำเร็จ จากการเป็นเบอร์ 1 คุณค่าของมันจะสร้างความแข็งแกร่งให้เราเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณตลอดไปแน่นอน

Credit: http://variety.teenee.com/foodforbrain/50700.html