ตำรวจเกาหลีใต้สามารถจับกุมชายรายหนึ่ง ฐานยักยอกเงินนายจ้างไปกว่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้วไปทำศัลยกรรมเพื่อหลบหนีการจับกุม
โฆษกสำนักงานตำรวจเมืออาซาน ทางตะวันตกของเกาหลีใต้ แถลงผลการจับกุมนายยูน วัย 33 ปี อดีตผู้จัดการฝ่ายบัญชีของบริษัทผลิตสารเคมีแห่งหนึ่ง ในข้อหาเจตนายักยอกเงินบริษัทเป็นมูลค่าถึง 4.7 พันล้านวอน (ราว 129 ล้านบาท) และใช้เงินในการเที่ยวเตร็ดเตร่ตามบาร์โฮสเตส รวมถึงการซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์
ตำรวจเปิดเผยว่า นายยูนแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปทำศัลยกรรมใบหน้าและจมูก เขาถูกจับกุมที่เมืองอาชาน หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งจากพลเมืองดี
นายยูนเคยทำงานในแผนกการเงินของบริษัทอุปกรณ์ด้านเซมิคอนดักเตอร์โดยนายยูนใช้วิธีโอนเงินกระจายเข้าไปยังบัญชีธนาคารของตนที่เปิดเอาไว้หลายแห่งก่อนยื่นจดหมายลาออกกะทันหันเมื่อต้นเดือนม.ค. ที่ผ่านมา โดยอ้างเหตุผลมีปัญหาทางครอบครัวกะทันหัน
หลังจากถอนเงินออกมาจำนวนมาก แล้วนำไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ซึ่งส่วนใหญ่หมดไปกับการเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิงราคาแพงนานถึง 10 วันโดยเฉพาะในย่านกังนัมในกรุงโซล ซึ่งเป็นย่านของผู้มีฐานะดี ตามด้วยการซื้อรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นซีดานอีก 1 คัน
ด้วยความเกรงกลัวว่าอาจถูกตามจับตัวได้ เขาจึงเดินทางไปยังเมืองกวางจู ทางตอนใต้ของประเทศ เพื่อรับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าขนานใหญ่ ก่อนกลับมาใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยอีกครั้ง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยอาศัยเบาะแสจากอดีตเพื่อนร่วมงาน 2 คนที่มีส่วนช่วยเหลือยูนในการยักยอกเงิน และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้โดยที่ยูนไม่ทราบมาก่อน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า นายยูนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงขณะที่ถูกจับกุม เนื่องจากใบหน้าและจมูกที่ผ่านการศัลยกรรม แตกต่างกับที่ปรากฏในบัตรประชาชน และรูปถ่ายในฐานข้อมูลพนักงานบริษัทเก่า แต่โชคดีที่ผู้ต้องสงสัยอีก 2 คนให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสอย่างดีเยี่ยมจนนำไปสู่การจับกุมได้สำเร็จ