เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ รอง ผบก. พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.เชาว์ ป้อมงาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ภูวนาถ แก่นจันทร์ สว.สส. ร่วมกันแถลงผลจับกุมตัว น.ส.สุจิตรา จิตตะคราม อายุ 22 ปี อยู่ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ นายคมกริช ขุนวิเศษ อายุ 42 ปี อยู่ม.8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สองสามีภรรยาผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ผู้อื่นหรือรับของโจร โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการหลบหนี
ของกลางที่ยึดได้ประกอบไปด้วย รถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สเปซแค็ป สีขาว ทะเบียน บพ 3698 สระบุรี 1 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ (ปลอม) สฮ-3226 กทม. กระดุมติดเสื้อนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ รวม 43 เม็ด ชุดนักศึกษาผู้หญิง 1 ชุด รองเท้าผ้าใบสีขาว 1 คู่ กุญแจรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ 5 พวง ธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐ 15 ดอลล่าร์ กระเป๋าเครื่องสำอาง 11 ใบ กระเป๋าสตรียี่ห้อดัง 24 ใบ กล้องถ่ายรูปโพลารอยด์ 1 ตัว แว่นสายตา 4 อัน นาฬิกาข้อมือ 6 เรือน แท็บเล็ตยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง โทรศัพท์สมาร์ทโฟน 23 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ 20 ใบ และทรัพย์สินอื่นอีกรวมกว่า 100 รายการ
พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนว่ามีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังใน จ.สมุทรปราการ บ่อยครั้ง ทรัพย์สินที่สูญหายประกอบด้วยกระเป๋าสตรีมีราคาและโทรศัพท์มือถือ เงินสด ตอนแรกคาดว่าคนร้ายเป็นคนในมหาวิทยาลัย แต่หลังตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า มีมหาวิทยาลัยรัฐบาลและเอกชนชื่อดังอีกกว่า 20 แห่งเคยถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นนักศึกษาหญิงรูปร่างอ้วนดำ เดินทางเข้าออกมหาวิทยาลัยที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง ทำให้เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นนักศึกษา
โดยล่าสุดคนร้ายแต่งกายสวมชุดนักศึกษาทำทีร่วมงานซ้อมรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว ก่อนภาพกล้องวงจรปิดจะบันทึกพฤติการณ์ไว้ได้ โดยคนร้ายเดินทางมากับรถกระบะ อีซูซุดีแม็กซ์ คันดังกล่าว เป็นชายหญิง 2 คน ฝ่ายหญิงลักษณะอ้วนดำ ฝ่ายชายหุ่นผอมสูง จึงนำภาพผู้ต้องสงสัยไปตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากร พบว่าคือ น.ส.สุจิตรา จิตตะคราม และนายคมกริช ขุนวิเศษ เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บางพลี จึงกระจายกำลังตรวจสอบ พบว่าทั้งคู่กบดานอยู่ภายในบ้านพักในซอยรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ และตรวจค้นภายในห้องพักพบของกลางจำนวนมาก จึงคุมตัวมาสอบสวน
น.ส.สุจิตตรา ให้การว่า ตนและสามีเคยถูกจับในคดีลักทรัพย์ เมื่อหลายปีมาแล้ว อยู่ด้วยกันจนมีลูก 1 คน แต่ด้วยความที่เป็นคนมีประวัติทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพใดได้ ก่อนหน้านี้เคยเดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พบว่านักศึกษาโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดัง และมหาวิทยาลัยเอกชน ใช้ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวราคาแพง โดยเฉพาะกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือ จึงสวมรอยแฝงตัวทำทีเป็นนักศึกษา โดยซื้อเสื้อผ้าเครื่องแบบนักศึกษาตามร้านทั่วไปแต่ติดกระดุมมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้าไปก่อเหตุ ก่อนสวมรอยแฝงตัวเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์อย่างแนบเนียน เลือกหยิบฉกฉวยทรัพย์สินที่นักศึกษาเผลอวางไว้ที่โต๊ะม้านั่ง ตามซุ้มอาคารเรียน โรงอาหาร หอประชุม หรือในห้องน้ำ
โดยยอมรับว่าก่อเหตุมามากกว่า 2 ปี โดยมหาวิทยาลัยที่ตนเข้าไปแฝงตัวก่อเหตุจำได้ว่ามีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ม.ราชมงคลธัญบุรี ม.มหิดล ม.ศิลปากร ม.หัวเฉียว ม.เอแบค ม.กรุงเทพ เป็นต้น ทรัพย์สินที่ได้มาหากเป็นกระเป๋าหรือของใช้ส่วนตัว จะนำไปวางขายตามตลาดนัดเปิดท้าย ส่วนโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเลกคทรอนิกส์จะนำไปขายต่อตามร้านจำหน่ายมือสอง โดยมีรายได้จากการก่อเหตุลักทรัพย์เดือนละไม่ต่ำกว่า 60,000-100,000 บาท
พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทราบข้อมูลผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดของมหาวิทยาลัย ก่อนนำตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมกระจายกำลังลงพื้นที่หาข้อมูลเชิงลึก จนพบที่กบดานของผู้ต้องสงสัย เมื่อจับกุมตัวได้ทั้งสองให้การรับสารภาพ โดยทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี ก่อเหตุมาแล้วมากกว่า 100 ครั้ง ทรัพย์สินที่ได้มาจะไปขายต่อ และนำเงินมาซื้อยาบ้าเสพเพราะทั้งสองติดยาบ้ามาก ส่วนที่เลือกตระเวนก่อเหตุตามมหาวิทยาลัย เนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายเป็นนักศึกษามักใช้ของส่วนตัวราคาแพง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ขณะเดียวกันหากมีผู้เสียหายรายใดเคยถูกก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้สามารถติดต่อขอตรวจสอบของกลางได้ที่ สภ.บางพลี โทร.02-337-3377 และ 02-337-3444 ได้ตลอดเวลา