เมื่อเวลา 02.20น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 พ.ต.ท.อิทธิรัตน์ ศักดิ์เพชร สารัวตรเวรสอบสวน สภ.ธัญบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ชนกันจำนวน3คันมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุเส้นทางวงแหวนตะวันออก ธัญบุรี-วังน้อย หลังห้างดูโฮมคลองเจ็ด หมู่ 4 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวตสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสาสมัครร่วมกตัญญ
ในที่เกิดเหตุเส้นทางธัญบุรี-วังน้อย มุ่งหน้าถนนรังสิตนครนายก ด้านหลังห้างสิ่งของตกแต่งบ้านดูโฮม พบรถยนต์หกล้อแบบตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 70-4905พระนครศรีอยุธยา ของบริษัทอัจฉริยะทรานสปอร์ตจอดริมอยู่ทาง ด้านท้ายรถพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสภาพเก่าสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บท-8284 ปราจีนบุรี ชนอัดก๊อปปี้ติดอยู่กับท้ายรถสภาพรถพังยับเยินไม่เหลือชิ้นดี ด้านหน้าฝากระโปรงรถยนต์กระบะพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย1ราย ทราบชื่อต่อมานายประมวน สุวรรณโรจน์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137/1 หมู่ที่9 ต.ลาดแค อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ด้านท้ายรถยนต์กระบะพบรถเทรลเลอร์ขนาด22ล้อยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หัวลากหมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 77-9971 กทม.ลูกพ่วง 76-3017 กทม.ของ บริษัท ไพรมัส คิสตอมโบรคเกอร์เรจ (ปทท.)จำกัด ชนอัดก๊อปปี้ติดอยู่ด้วยกันทั้ง3คัน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายอีก1รายอาการสาหัส หน่วยกู้ภัยให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลธัญบุรีไปก่อนหน้านี้แล้วเพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิต
ทางด้านนายพรสิน เจดีย์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 417 หมู่ที่2 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความตกใจว่า ตนพร้อมด้วยนางหนูแดง เจดีย์ อายุ 50ปี ซึ่งเป็นภรรยา พร้อมด้วยน.ส.อรวรรณ คำพานิชย์ อายุ 21 ปี และหลานอีก2คัน รวมแล้ว5คน กำลังขับรถเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาในจ.ปราจีนบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเครื่องยนต์รถได้เกิดขัดข้องตนจึงจอดรถไหล่ทางด้านซ้ายสุดพร้อมเปิดไฟสัญญาณกระพริบเพื่อรอความช่วยเหลือจากผู้ผ่านทาง ทันใดนั้นเองได้มีพลเมืองดีซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ 6 ล้อบรรทุกสินค้าแบบตู้ทึบผ่านมาในเส้นทางแล้วจอดรถไว้ด้านหน้ารถตนเพื่อลงมาช่วยเหลือ ทราบชื่อต่อมานายนายประมวน สุวรรณโรจน์ อายุ 35 ปี ผู้เสียชีวิต และเด็กรถอีก1รายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะที่พลเมืองดีทั้งสองคนและตนเองกำลังกำลังตรวจสอบเครื่องยนต์ของรถยนต์ที่ชำรุดและทำกำลังทำการผูกเชือกลากจูงรถ แต่ยังไม่ทันเสร็จสิ้นทันใดนั้นได้มีรถคู่กรณีที่ขับมาตามเส้นทางได้เข้ามาชนด้านท้ายรถยนต์กระบะส่งผลให้พลเมืองดี1รายซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์6ล้อพลเมืองดีเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุสภาพศพแหลกละเอียด อีก1รายซึ่งเป็นเด็กรถได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนตนกระเด็นออกไปอยู่ที่พื้นถนนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังสิ้นเสียงชนดังสนั่นหวั่นไหวตนได้ตามหาพบภรรยาและหลานๆกระโดดหลบไปอยู่ในป่าหญ้าเนื้อตัวมอมแมมทุกคนปลอดภัย จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานหน่วยกู้ภัย
ทางด้านนางหนูแดง เจดีย์ ผู้โดยสารมากับรถยนต์กระบะเปิดเผยถึงนาทีระทึกขวัญเพิ่มเติมว่า ขณะที่พลเมืองดีและสามีกำลังช่วยกันผูกเชือกเพื่อลากจูงกันไปกับรถของพลเมืองดีที่เสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตออกปากอาสาที่จะลากไปส่งให้ถึง จ.ฉะเชิงเทราเพราะเป็นเส้นทางผ่านพอดี และช่วงยามดึกๆไม่มีร้านซ่อมเปิดบริการเพราะสงสารเด็กๆ ทันใดนั้นรถคู่กรณีได้ขับส่ายไปมาในเส้นทางตนเห็นแล้วท่าจะไม่ดีแน่จึงกระโดดหลบไปในป่าหญ้าข้างทางพร้อมร้องตะโกนให้ทุกคนหลบแต่ไม่ทันสิ้นเสียงรถคู่กรณีได้พุ่งชนต่อกัน3คันรวด จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังเกิดเหตุผู้ขับขี่รถยนต์เทรลเลอร์คู่กรณีได้เดินมายกมือไหว้ขอโทษพร้อมกล่าวว่า ผมเผลอหลับในมาครับต้องขอโทษด้วย หลังจากนั้นซึ่งเป็นจังหวะชุลมุนทำให้ผู้ขับขี่เดินเท้าหลบหนีไป
ในเวลาต่อมานางดรุณี มะลิ อายุ36 ปี ภรรยาของพลเมืองดีที่เสียชีวิตได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังทราบข่าว พร้อมกับร่ำไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดเพราะไม่คิดว่าสามีจะมาพบจุดจบจากการเป็นพลเมืองดี พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่าสามีเป็นคนดีชอบช่วยเหลือผู้อื่นหากพบใครที่ต้องการความช่วยเหลือหรือด้อยโอกาสกว่ามักจะจอดรถถามแล้วลงไปช่วยเหลือเสมอ ในวันหยุดก็จะออกหาเก็บผัก ทอดแหตกปลาเพื่อนำมาเลี้ยงครอบครัว ขณะเกิดเหตุสามีได้ไปรับสินค้าจากคลังวังน้อย เพื่อไปส่งที่จุดหมายจ.ชลบุรี
ทางด้าน พ.ต.ท.อิทธิรัตน์ ศักดิ์เพช สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ธัญบุรีเจ้าของคดี เปิดเผยว่า เบื้องต้นสาเหตุน่าเกิดจากผู้ขับขี่รถยนต์เทรลเลอร์คู่กรณีหลับใน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดต่อไปที่สถานประกอบการเพื่อติดตามผู้ขับขี่มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฏหมาย ทั้งนี้ได้ให้อาสาสมัครร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป.