ใบหน้าคน กลางลูกไฟ พญานาค
เช้านี้ขณะที่พายุ กฤษณา กำลังเข้าสู่แผ่นดินไทย ด้านจังหวัดอุบลราชธานี ฝนตกตั้งแต่คืนวันที่ 29 ก.ย. 52 จน
ขณะนี้ 12.53 น. ของวันที่ 30 ก.ย. 52 วันที่หลายคนต้องใจหาย หลายคนต้องโล่งใจ ที่จะได้วางภาระ งาน ที่ตรากตรำในระบบมา
หลายสิบปี หลายคนเสียดาย หวงแหน ตำแหน่ง หน้าที่การงาน หวงอำนาจ ที่เคยมี นี่พูดถึงผู้ที่ จะเกษียณอายุราชการ นะ ก็แค่
หน้าที่ ตามอาชีพ ของการเป็น พลเมือง ของประเทศนี้ ของสังคมนี้ แต่หน้าที่ของความเป็น มนุษย์ ยังมีต่อไปอีก จนกว่าจะหมดลม
หายใจ " นักวิชาการ ไม่เคยเกษียณอายุราชการ " เป็นคำพูดของ ท่าน รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ
"การเรียนรู้ ไม่มีวันจบ" ดังภาษาทางวิชาการกล่าวว่า "การศึกษาตลอดชีวิต" ถ้าอยากรู้เรื่องอะไร ก็ใส่ใจเข้าไป ดังหลักการทำงาน
ให้เป็นเลิศ ตามทฤษฎีของพระพุทธเจ้า ที่ชื่อว่า "หลักอิทธิบาท 4" กิจการใดๆ จะสำเร็จ และ มีความเป็นเลิศได้ เมื่อใช้หลักการนี้ ซึ่ง
มี 1.ฉันทะ คือ ความพึงพอใจ ในกิจการที่จะกระทำ 2.วิริยะ คือ มีความพากเพียร ทำในกิจการนั้นๆ อย่างไม่ย่อท้อ 3.จิตตะ คือ ความ
ใส่ใจในกิจการที่กระทำ ระลึกถึงเห็นความสำคัญ ให้ความสำคัญ ไม่ปล่อยปะละเลย 4.วิมังสา คือ หมั่นตริตรอง ใคร่ครวญ ด้วยสติ
ปัญญา ศึกษาหากลยุทธ ปรับปรุงนโยบาย วิจัยตลาด ปรับปรุงคุณภาพ สร้างระบบตรวจสอบคุณภาพ ปรับปรุงระบบต่างๆ ฯลฯ เหล่า
นี้ ก็จะทำให้กิจการนั้นๆ เจริญงอกงาม วันนี้ขึ้นต้น ด้วย การละการวาง จากภาระหน้าที่ ทางสังคม ครับ
ฝนตกไปไหนไม่สะดวก ประจวบกับใกล้ออกพรรษา เพื่อนๆโทรชวน ไปดูบั้งไฟพญานาค บางคนก็อยากให้ไป
เก็บภาพพิธีบรวงสรวง ที่ริมแม่น้ำโขง หน้าที่ว่าการอำเภอโขงเจียม ในช่วงเช้าของวันที่ 4 ตุลา 52 ผมก็ยังไม่ได้รับปากเป็นมั่นเป็น
เหมาะ เพราะการเป็นนักวิจัย เราต้องไปแบบเงียบๆ อย่าให้เขารู้ตัว ไปในลักษณะของนักท่องเที่ยว ธรรมดาๆ คนหนึ่ง จะได้ข้อมูล
เชิงลึกที่ตรงกับสภาพจริง มีความสมบูรณ์ของข้อมูล ที่เป็นกลาง นั่นคือ สิ่งที่ นักวิจัย เชิงคุณภาพ อย่างผมต้องการ และก็เป็น
ลักษณะหนึ่งของผู้วิจัย ที่ ครูของผมหลายท่าน อาทิ ผศ.ดร.เสนอ ภิรมจิตรผ่อง รศ.ดร.ชวนชัย เชื้อสาธุชน ดร.กุหลาบ ปุริสาร
และ ผศ.ดร.จิณณวัตร ปะโคทัง ได้สั่งสอน บอกกล่าว และฝึกฝน ให้เข้าใจถึงธรรมชาติที่แท้จริงของนักวิจัย ผมหยิบภาพ
ดวงไฟสีส้ม บั้งไฟพญานาค ที่ถ่ายภาพไว้ได้ เมื่อปี 51 ณ ริมโขง บ้านท่าล้ง นำมาพิจารณา เข้าโปรแกรม ปรับสี ลดแสง ของ
ภาพ ซึ่งก็ลองทำหลายรอบแล้วล่ะ ที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไร แปลกใหม่ แต่วันนี้ ครับท่าน ผมได้ข้อมูลใหม่ ที่นำมาให้ท่านทั้งหลาย ที่มีใจ
เชื่อมโยง หรืออาจจะเรียกว่า ทำบุญร่วมกันมาตั้งแต่ ปางก่อน จะปางไหน ก็ช่าง ที่ทำให้ท่านคลิ๊กเข้ามาชม V blog นี้
เป็นภาพ ดวงไฟ พญานาคสีส้ม ภาพเดียวกันกับหน้าแรก ครับ
เมื่อปรับลดแสง เงา ให้เหมาะสม ปรากฎ มีภาพส่วนของใบหน้า คล้ายผู้หญิง เห็นดวงตาข้างขวา ชัดกว่าข้างซ้าย เห็นจมูก เห็นริม
ฝีปาก ริมฝีปากบนเล็กกว่าริมฝีปากล่าง
ภาพนี้ ลดค่าของแสงลงไปอีก เพื่อเปรียบเทียบกัน ปรากฎให้เห็น ความนูนของโหนกแก้ม รูปคาง รูปจมูก สันจมูก ชัดยิ่งขึ้น
เป็นเรื่องแปลกไหม ที่ผมได้เคยเล่าเรื่อง สีของบั้งไฟพญานาค ที่เทวดาทั้ง 2 ท่าน ได้ตอบคำถาม เอาไว้ (รายละเอียดอยู่ในหน้าที่
2 เรื่อง การวิเคราะห์บั้งไฟพญานาค ) ที่ท่านบอกว่า สีของดวงไฟเป็นตัวบอก ภพภูมิของวิญญาณ ที่จะไปเกิด ดวงไฟสีส้ม คือ ผู้ที่
จะไปเกิดเป็น คน และ จากข้อมูลที่มีอยู่นี้ ก็ได้ ยืนยัน คำพูด ถ้อยแถลง ของ เทวดาทั้ง 2 ท่าน ว่า เป็นจริง ในเบื้องต้น
ซึ่ง จากภาพข้อมูลดังกล่าว ก็ยังไม่ใช่ข้อยุติ ของการศึกษา ผมเองก็จะยังดำเนิน การต่อไปอีก จนกว่า ข้อมูลที่ได้ จะมี
ความอิ่มตัว ก็จะมาเล่าแถลง แจงทุกด้าน ให้ท่านผู้สนใจ ได้รับทราบ ครับผม แต่ท่านว่า แปลกไหม ภาพดังกล่าว อยู่กับผมมาแรมปี
ลองทำหลายต่อหลายครั้ง ก็ไม่อะไรแปลกใหม่ พอ มาถึงวันนี้ ผมกลับได้ ข้อมูล ที่ซ่อนอยู่ในลูกไฟ พญานาค ที่ผมถ่ายภาพได้ มากับ
มือ ซึ่ง อีก 4 วัน นับจากนี้ ก็จะถึง วันออกพรรษา ถึงคราที่ เหล่า วิญญาณส่วนหนึ่ง จะพ้นผ่านวาระ จากทุกขเวทนา ใน นรกภูมิ
สู่ภพภูมิใหม่ ขอแสดงความยินดี กับท่านเหล่านั้นด้วย
ผมจะไปบันทึกภาพ เพื่อร่วมเป็นเกียรติ กับวาระสำคัญ แห่งชีวิต ของท่านทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยความเคารพครับ และยังคงหวัง
ลึกๆ ว่า จะได้ข้อมูล ที่แจ่มชัด ขจัดข้อกังขา เพื่อนำไปสู่ การพัฒนาภูมิปัญญา ของสรรพสัตว์ ในปัจจุบัน และอนาคต