เฉลิมพร อยู่วงษ์อั๋น ชูศักดิ์ วงศ์ทองดี พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี เรื่อง/ภาพ

สาขาวิชาชีพหนึ่งที่ผู้คนในสังคมให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างสูง คืออาชีพครู ผู้ซึ่งมีหน้าที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้กับบรรดา ลูกศิษย์ลูกหา

แต่ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่าง นักเรียนกับครู ลูกศิษย์และอาจารย์ ที่ปรากฏออกสู่สาธารณชนกลับกลายเป็นเรื่องน่าตระหนก ชนิดเกินที่ใครจะคาดคิดได้

เพราะเพียงวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา เพียงวันเดียว กลับเกิดคดีทำร้ายร่างกายผู้มีอาชีพเปรียบประดุจเรือจ้างถึง 2 รายซ้อน

รายแรกเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชื่อดังในจังหวัดพิษณุโลก ที่ก่อเหตุโหดลวงครูฝ่ายปกครอง ไปแทงจนบาดเจ็บสาหัส เพียงเพราะไม่พอใจที่ครูคนดังกล่าว เข้มงวดกวดขันให้ศึกษาเล่าเรียน

รายที่สองคนร้ายก็ก่อเหตุอุกอาจไม่แพ้กัน แม้ผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของเหยื่อ แต่เจ็บแค้นแทนเพื่อนจึงใช้มีดคัตเตอร์กระหน่ำฟันอาจารย์ชั้นปริญญาโทจนบาดเจ็บสาหัส ภายในรั้วจามจุรี มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ

โดยรายหลังเหตุเกิดเมื่อกลางดึกในวันดังกล่าว หน้าอาคารวิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลง กรณ์มหาวิทยาลัย

เมื่อ ผศ.ดร.จีรวัฒน์ ชีวรุ่งโรจน์ รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ถูกคนร้ายใช้มีดคัตเตอร์ฟันกลางหลัง และท่อนแขนจนเลือดสาด ต้องให้แพทย์เย็บแผลถึง 20 เข็ม ก่อนที่คนร้ายซึ่งพยานระบุว่า เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ ตัดผมสั้นเกรียน ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปหลังก่อเหตุ

ตำรวจฝ่ายสืบสวนจากกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (กก.3 บก.สส.บช.น.) และสน.ปทุม วัน เจ้าของพื้นที่ ต่างมุ่งประเด็นความแค้นส่วนตัว หลังจากสอบปากคำพยานและตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว

โดยพุ่งเป้าไปที่บรรดานักศึกษาที่เรียนไม่จบ จนอาจเกิดความแค้นจนก่อเหตุร้ายดังกล่าว

เพียง 5 วันหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. และพ.ต.ท.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน สว.กก.3 ก็แถลงข่าวการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา

คนร้ายประกอบด้วย นายประพรรณศักดิ์ หรือเสือ พรมงาม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 479/5 ซอยสุทธิพร เขตดินแดง กรุงเทพฯ และน.ส.ศศิธร หรือเร ติยะโครต อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/11 ม.1 ซอยนพรัตน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ

ทั้งคู่ถูกจับกุมตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมของกลาง อาวุธมีดคัตเตอร์ 1 ด้าม รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สีขาว ทะเบียน สงฉ 174 กรุงเทพมหานคร

พ.ต.อ.นพศิลป์เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นรปภ.ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่อยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุ กระทั่งทราบว่า คนร้ายคือนายประพรรณศักดิ์ จึงขออนุมัติหมายจับต่อศาล ก่อนเข้าจับกุมตัวได้ที่บริเวณโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ถนนวิภาวดี รังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ

เมื่อนำตัวมาสอบสวน นายประพรรณศักดิ์ ก็ยอมเปิดปากสารภาพแต่โดยดี พร้อมให้การซัดทอดถึงน.ส.ศศิธร เพื่อนสมัยเรียนซึ่งมีลักษณะเป็นทอมบอย

นายประพรรณศักดิ์ระบุว่า มีอาชีพรับจ้างเขียนโปรแกรมระบบคอมพิวเตอร์ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านบางเขน

ก่อนลงมือก่อเหตุ น.ส.ศศิธรซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นสถาบันเดียวกัน และมีความสนิทสนมกัน มาปรับทุกข์ให้ฟังว่า โกรธแค้นอาจารย์ จีรวัฒน์มาก ที่ไม่ยอมให้แฟนสาวของเพื่อนทอมบอย จบหลักสูตรระดับปริญญาโทคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยสาวทอมเล่าให้ฟังว่า แฟนสาวมีปัญหาในการสอบและการทำวิทยานิพนธ์ โดยใช้เวลาศึกษาถึง 4 ปีแล้ว

ทันทีที่โปรแกรมเมอร์หนุ่มได้ฟังเรื่องราวจากปากของสาวทอมเพื่อนรักเสร็จ ก็เกิดความเจ็บแค้นแทน อาสาจัดการกับอาจารย์จีรวัฒน์ โดยไม่มีค่าตอบแทน

นายประพรรณศักดิ์ไปซื้อวิกผม มีดคัตเตอร์ และถุงมือ พื่อปิดบังอำพรางใบหน้าและรูปร่าง แล้วไปดักรออาจารย์จีรวัฒน์ถึง 2 วัน ก่อนจะสบโอกาสระบายความแค้นให้เพื่อนรัก

หลังก่อเหตุแล้วรีบนำอุปกรณ์ก่อเหตุทั้งหมดไปโยนทิ้งที่คลองแสนแสบ ก่อนหลบหนีไป กระทั่งถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวดังกล่าว

เมื่อได้คำให้การของโปรแกรมเมอร์หนุ่มแล้ว เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายจับน.ส.ศศิธร ก่อนติดตามไปจับกุมตัวได้ในที่สุด

แต่เบื้องต้นสาวทอมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น ยังต้องต่อสู้กันอีกนานกว่าจะรู้ผล

ส่วนโปรแกรมเมอร์หนุ่มซึ่งสารภาพตลอดทุกข้อหา ต้องเข้าไปกินนอนหลังมุ้งสายบัวอีกนาน เหตุเพราะรักเพื่อนในทางที่ผิด