ชนสนั่นเมืองนครปฐม! บัสโดยสารกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี ชนรถพ่วง22ล้อ บาดเจ็บ33คน

 

เมื่อ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191ตำรวจภูธรนครนปฐม รับแจ้งมีเหตุรถบัสโดยสารชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดถนนมาลัยแมนขาออกมุ่งหน้า อ.กำแพงแสนระหว่าง กม.9-10 ต.วังตะกู อ.เมือง จ.นครปฐม จึงประสานท้องที่ ร.ต.ต.สัญญา จันทร์ยิ้ม พนักงานสอบสวน เวรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ทราบรุดไปตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวน   พร้อมประสานกู้ภัยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม กู้ชีพศูนย์นครปฐมร่วมช่วยเหลือลำเลียงผู้บาดเจ็บส่ง รพ.เร่งด่วน
 
ที่เกิดเหตุเป็นจุดกลับรถก่อนถึงแยกเข้า สภ.โพรงมะเดื่อประมาณ 300 เมตรพบรถบัสโดยสารปรับอากาศ ป.2 สีขาวคาด น้ำเงินส้ม สายกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรีหมายเลขข้างรถ 88-42 หลายเลขทะเบียน 10-0342 สุพรรณบุรี หน้าด้านรถชนอัดติดอยู่กับท้ายรถบรรทุกหัวลากชนิดสิบล้อยี่ห้อฮีโน่สีขาวโดยมีลูกพ่วงชนิด 12 ล้อที่ลากมาถูกชนขาดออกจากตัวลาก โดยที่ตัวหัวลากกระจกหน้าติดสติกเกอร์ป้ายชื่อ ชัยรัชการ(กรุงเทพ) ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้าหมายเลข 88-8639 นครปฐม ป้ายท้ายไม่ได้ติด ตัวพ่วงติดป้ายทะเบียน 88-4978 นครปฐม ที่กระจกหน้าของรถหัวลากมีป้ายภาษีขนส่งติดอยู่ 2 แผ่น แผ่นที่ 1 ระบุรถพ่วงมาตรฐานรถพ่วงมีข้างเสริมหมายเลขทะเบียน 87-3419 นครปฐม แผ่นที่ 2 ระบุมาตรฐานพ่วงหมายเลขทะเบียน 88-4978 นครปฐม ขณะกำลังชุลมุนทั้งพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมด 33 คน เป็น หญิง 29 คน ชาย 4 คน ส่ง รพ. 3 แห่งคือ รพ.สนามจันทร์ 28 คน รพ.กรุงเทพตริสเตียน 4 คน และ รพ.ศูนย์นครปฐม 1 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาจาก ม.ราชภัฎนครปฐม ส่ง รพ.ใกล้ที่เกิดเหตุอยู่ 
 
คนขับรถบรรทุก ทราบชื่อต่อมาคือ นายนเรศ ฉวีอินทร์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ ช.14/8 ม.2 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้ทำการถอดแผ่นป้ายทะเบียนของรถบรรทุกที่ติดอยู่ที่กันชนหน้ารถออก โดยบอกว่า รถบรรทุกเป็นของเถ้าแก่อยู่ย่านตำบลลำพยา อ.เมืองนครปฐม ประกอบการชื่อ ว่องเจริญ ป้ายทะเบียนที่ติดด้านหน้าหมายเลข 88-8639 นครปฐม ที่ถอดออกนั้น เป็นแผ่นป้ายทะเบียนของรถคันอื่นที่ทางเถ้าแก่จงใจให้ติดสลับคันเพื่อเวลาเกิดเหตุหากมีคนจำได้เวลาเกิดอุบัติเหตุจะหากไปตรวจสอบจะอ้างได้ว่า รถของบริษัทไม่ใช่คันก่อเหตุ หากจวนตัวแก้ไขไม่ทันก็ให้อ้างว่า ติดผิดคัน แต่ครั้งนี้หลังเกิดเหตุได้โทรบอกเถ้าแก่แล้ว เถ้าแก่ให้ถอดออกก่อนตำรวจมาถึงตนจึงถอดออก ก่อนเกิดเหตุตนขับรถไปเติมก๊าช ngv. ออกจากปั้มมาก็เลี้ยวกลับรถเพื่อไปขึ้นทรายที่บ่อทรายในตำบลโพรงมะเดื่อ แต่มีรถอื่นจอดบังมองไม่เห็นรถทางตรงจึงขับออกไปตัดหน้ารถบัสโดยสารจนชนกัน แต่ตนก็ไม่คิดหลบหนี นายนเรศ กล่าว
 
ขณะที่นายสมพงษ์ จินกสิกิจ อายุ 45 ปี คนขับรถบัสโดยสารอยู่บ้านเลขที่ 67/1 ม.4 ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ซึ่งได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย หน้าอก แขน ขา ทั้งสองข้าง บอกว่า ขับรถรับผู้โดยสารมาจาก กทม.และมารับผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่ง 42 ที่นั่งจนต้องยืนอีกกว่า 30 คนซึ่งเป็นนักศึกษาที่ขึ้นที่หน้า ม.ราชภัฎนครปฐม ขณะวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งมีจุดกลับรถได้มีรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวขับกลับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ตนบีบแตรเตือนยาวบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว ก็ยังขับเลี้ยวกลับรถออกมาตัดหน้าตนเบรกแต่ก็ไม่อยู่จึงชนเข้าอย่างแรงเป็นเหตุให้มีผู้โดยสารรวมทั้งตนเองได้รับบาดเจ็บระนาวดังกล่าว
 
สำหรับผู้บาดล่าสุดมีมากกว่า 33 คนโดยมีผู้บาดเจ็บที่ตอนแรกยังไม่รู้เจ็บได้ทยอยเข้ารักษาตาม รพ.ต่างๆข้างต้นเพิ่มอีกโดยจำนวนผู้บาดเจ็บมีผู้บาดเจ็บทั้งหัวแตก แขน ขา ลำตัว ใบหน้ามีบาดแผลทั้งถูกกระแทก ถูกกระจกบาด บางรายแพทย์ให้กลับบ้านได้และบางรายต้องนอนรักษาตัว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาคนขับรถบรรทุกว่า ประมาทเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส สวนเรื่องการติดแผ่นป้ายทะเบียนไม่ตรงกับความเป็นจริงอยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อดำเนินการต่อไป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...