... เช้าวันหนึ่ง..ที่โรงพยาบาล...
“ขอให้ชั้นดูหน้าลูกหน่อยได้มั๊ยคะ”คุณแม่คนใหม่เอ่ยขึ้น เมื่อห่อผ้าน้อย ๆอยู่ในอ้อมกอดเธอ เธอค่อยๆคลี่ผ้าที่ห่อออกเพื่อมองใบหน้าเล็ก ๆ กรี๊ด ด ด ด ด.... เธอกรีดร้อง หมอต้องอุ้มเด็กออกไปอย่างรวดเร็ว เด็กทารกที่เกิดมา....ไม่มีใบหู
และแล้ว...กาลเวลาพิสูจน์ว่า....การได้ยินของเจ้าหนูไม่มีปัญหา ปัญหามีเฉพาะสิ่งที่มองเห็นภายนอกคือ....ใบหูที่หายไป
หลายครั้งที่เจ้าหนูกลับจากโรงเรียนแล้ววิ่งมาบอกแม่
....เธอรู้ว่าหัวใจลูกปวดร้าวแค่ไหน... เจ้าหนูพูดโพล่งออกมาอย่างน่าเศร้า “พวกเด็กตัวโต พวกมันล้อผมว่า “นายตัวประหลาด”
จนกระทั่ง... เจ้าหนูเติบโตขึ้นหล่อเหลา
เป็นที่รักของเพื่อน ๆ เค้ามีพรสวรรค์ในด้านอักษรศาสตร์ วรรณคดี และดนตรี เค้าอาจได้เป็นหัวหน้าชั้น ... แต่เพราะเจ้าสิ่งนั้น...ทำให้เค้าไม่อยากเจอใคร “ลูกต้องพบปะกับผู้คนบ้างนะลูก” แม่กล่าวด้วยความสงสารลูก
.....พ่อของเด็กชายปรึกษากับหมอประจำครอบครัว
และได้รับข่าวดีจากหมอว่า...”ผมสามารถปลูกถ่ายใบหูได้รับถ้ามีผู้บริจาค แต่ใครล่ะจะเสียสละใบหูเพื่อเด็กน้อยคนนี้” คุณหมอกล่าว
จนกระทั่ง ...2 ปีผ่านไป พ่อบอกกับลูกชาย “ลูกเตรียมตัวไปโรงพยาบาลนะ
พ่อกับแม่หาคนบริจาคใบหูที่ลูกต้องการได้แล้ว...แต่นี่เป็นความลับ”
การผ่าตัดสำเร็จด้วยดี และแล้ว...คนคนใหม่ก็เกิดขึ้น
....เค้ากลายเป็นผู้มีพรสวรรค์... เป็นอัจฉริยะในโรงเรียน...ในวิทยาลัย จนเป็นที่กล่าวขานกันรุ่นต่อรุ่น
ต่อมาได้แต่งงาน...และทำงานเป็นข้าราชการในสถานทูต
วันหนึ่งชายหนุ่มถามผู้เป็นพ่อว่า “พ่อครับใครเป็นคนมอบใบหูให้ผมมา
ใครช่างให้ผมได้มากมาย แต่ผมไม่เคยทำอะไรเพื่อเค้าได้เลยสักนิด”
“พ่อไม่เชื่อว่าลูกจะตอบแทนเค้าได้หมดหรอกเรื่องนี้..เป็นความลับ เราตกลงกันแล้ว” พ่อตอบ
หลายปีผ่านไป....มันยังคงเป็นความลับ และแล้ว..วันนึง
วันที่มืดมิดที่สุดผ่านเข้ามา...ในชีวิตลูกชาย
แม่เค้าได้เสียชีวิตลง.. เค้ายืนข้างๆพ่อ...ใกล้!ศพของแม่
พ่อเรียกเค้า “ มานี่สิลูก..มานั่งใกล้ๆนี่..พ่อลูบผมแม่อย่างช้าๆ และนุ่มนวล..ผมสีน้ำตาลแดงถูกเสยขึ้นจนมองเห็น ใบหน้าที่มองดูเหมือนคนนอนหลับ
...และแล้วสิ่งที่ทำให้ลูกชาย ถึงกับต้องตะลึง...ใบหูของแม่...หายไป
แม่ไม่มีใบหู...”นี่เป็นคำตอบที่ลูกอยากรู้มาตลอดชีวิต”...พ่อกระซิบผ่านลูกชาย
แม่บอกพ่อว่าเธอดีใจที่ได้ทำอย่างนี้+ตั้งแต่วันผ่าตัด...เธอไม่เคยตัดผมอีกเลย
ไม่มีใครมองเห็นว่าเธอไม่สวยจริงมั๊ย?
“ จงจำไว้” สิ่งมีค่าที่แท้จริง ...ไม่ได้อยู่ที่การมองเห็น...หากแต่อยู่ที่สิ่งที่เรามองไม่เห็น
...ความรักที่แท้จริง....ไม่ได้อยู่ที่เราได้ทำอะไรแล้วมีคนรับรู้ ...หากแต่อยู่ ที่สิ่งที่ เรากระทำแล้ว...ไม่มีใครรับรู้
.....ความรัก
บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูดพร่ำเพรื่อ..
............อ่านบทความนี้แล้วลองกลับมาคิด............
ถ้าพรุ่งนี้เราตายไปบริษัทสามารถหาคนมาแทนเราได้ภายในไม่กี่วัน
แต่ครอบครัวเราต้องสูญเสีย และคิดถึงเราไปตลอด
เราใช้ชีวิตกับการทำงานมากกว่าครอบครัวหรือเปล่า?
....ถ้ามากกว่า...มันช่าง..เป็นการลงทุนที่ไม่ฉลาดเลยจริงๆ...