เชื่อหรือไม่ ว่าลิ้นจี่มีสรรพคุณป้องกันโรคตับ

 

เชื่อหรือไม่ ว่าลิ้นจี่มีสรรพคุณป้องกันโรคตับ


สุขภาพร่างกายของ คนเรานั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนจริงๆ บางทีอยู่ดีๆ ก็เจ็บป่วยขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งจำเป็นมากๆ ที่เราจะต้องดูแลสุขภาพร่างกายอยู่เสมอ แต่เนื่องจากโรคบางโรคก็ไม่รู้ว่าควรจะป้องกันอย่างไร เลยทำให้หนีไม่พ้นโรคเหล่านั้นซึ่งต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยตรง แต่ทราบหรือไม่ว่าโรคบางโรคนั้นก็มีผลไม้บางชนิดสามารถป้องกันได้เหมือนกัน สรรพคุณที่ป้องกันโรคตับได้ หลายๆ คนคงไม่เชื่อกันแน่ใช่ไหมล่ะ แต่นี่คือเรื่องจริงที่ได้รับการวิจัยออกมาแล้วว่า ลิ้นจี่มีสรรพคุณป้องกันโรคตับได้จริงๆ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ผลไม้ธรรมดาๆ แต่ตอนนี้ลิ้นจี้กลายเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากๆ เอาเป็นว่าเราไปดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าว่า ลิ้นจี่มีสรรพคุณป้องกันโรคตับได้มากน้อยเพียงใด รายละเอียดที่นำมาฝากนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่รักสุขภาพมากน้อยเพียงใดไปดูกันเลย

ลิ้นจี่มีสรรพคุณป้องกันโรคตับ


“ลิ้นจี่”เป็น ผลไม้ที่มีสีแดงมีมายาวนานกว่าพันปี ซึ่งมีต้นกำเนิดของผลไม้ชนิดนี้มาจากประเทศจีนมีหลากหลายสายพันธุ์ทั้ง กิมเจ็ง ฮงฮวย และ จักรพรรดิ ในบ้านเราแหล่งที่มีพื้นที่ปลูกมากจะอยู่ในภาคเหนือ และเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลไม้ไทย รศ.ดร.ภญ.พาณี ศิริสะอาด คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงศึกษาค้นคว้าคุณประโยชน์ผลไม้ดังกล่าว

 

รศ.ดร.ภญ.พาณี เปิดเผยว่าช่วงนี้เราเริ่มเห็นผลลิ้นจี่ทยอยสุก แต่สียังไม่เข้มจัดการเก็บเกี่ยวลิ้นจี่มักเริ่มในเดือนกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน เมื่อลิ้นจี่ออกสู่ท้องตลาดลิ้นจี่จะเป็นของฝากที่มีคุณค่าที่เหมาะสำหรับ ผู้รับ เนื่องจากอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน และช่วยย่อยอาหาร ช่วยในการบำรุงอวัยวะภายในต่างๆ ภายในร่างกาย

 

ทั้งนี้จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลพบว่าเนื้อลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่อุดมไป ด้วยวิตามิน และเกลือแร่ น้ำมันจากเมล็ดลิ้นจี่มีสารประกอบ เป็นกรดไขมันที่สำคัญ เช่น ปาล์มมิติก 12% โอลิอิก 27% และไลโนเลอิก 11% เปลือก จะมีสารกลุ่มฟลาโวนอลที่สำคัญคือ โพรไซยาไนดินบี 4 ไพรไซยา-ไนดินบี 2 และอีพิคาเทชิน ส่วนที่สำคัญคือ ไซยาไนดิน-3-รูตินโนไซด์ ไซยาไนดิน-3กลูโคไซด์ เควอเซทิน-3-รูติโนไซด์ และเควอเซทิน-3-กลูโคไซด์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง

 

และยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งเต้านมจากสรรพคุณดังกล่าว ชาวแดนมังกรจึงนิยมกินผลไม้ดังกล่าวเพื่อช่วยบำรุงแก้อาการไอเรื้อรัง คัดจมูก อาการท้องเดิน ลดกรดในกระเพาะอาหาร และยังนำมาทำเป็นชาชงเพื่อบรรเทาอาการหวัด แก้การติดเชื้อในลำคออาการท้องเสียอย่างอ่อน และโรคจากการติดเชื้อไวรัส

 

 

เปลือกเนื้อใน รวมทั้งเมล็ดล้วนมีโอสถสาร
จากรายงาน วิจัยยังพบว่าสารสกัดลิ้นจี่ลดขนาดเนื้องอกในสัตว์ทดลอง แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นสารสกัดส่วนใดของลิ้นจี่สำหรับงานวิจัยนักวิทยาศาสตร์ ของไทยพบว่า สารสกัดผลลิ้นจี่มีฤทธิ์ในการปกป้องตับในหนูที่เหนี่ยวนำให้ได้รับสารพิษและ เป็นโรคตับ

 

 


ที่มาข้อมูล n3k.in.th
ที่มารูปภาพ dailynews.co.th








Credit: http://guru.sanook.com
18 ก.พ. 56 เวลา 21:03 2,020 4 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...