เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้(17 ก.พ.) พ.ต.ท.เด่นชัย ชำนาญในเมือง สารวัตรเวร สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตกลางทุ่งนาริมถนนคนชุม-พุดซา ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมเงิน คู่ตระกูล หัวหน้า พนักงานสอบสวนฯ พ.ต.อ.อัทธชนม์ ช่วงงาม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง มูลนิธิฮุก 31 นครราชสีมา แพทย์เวรจาก รพ.มหาราช นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 นครราชสีมา
ที่เกิดเหตุพบศพ นายสันติกร พะยอมใหม่ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 10 ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นอนหงายเสียชีวิตกลางทุ่งนา ห่างจากถนนประมาณ 20 เมตร ในสภาพ ยังสวมใส่เสื้อวินจักรยานยนต์ หมายเลข 22 ซึ่งเป็นเสื้อวินของวินตลาดเซฟวัน ตรวจสอบตามร่างกายพบร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณรอบลำคอ และศีรษะกว่า 20 แผล หางจากศพประมาณ 3 เมตร พบโทรศัพท์มือถือ ของคนตายตกอยู่ 1 เครื่อง ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร พบหมวกกันน็อคของผู้ตายตกอยู่ 1 ใบ นอกจากนี้ที่บริเวณริมถนนห่างจากจุดพบศพประมาณ 30 เมตร ยังพบหมวกกันน็อค ซึ่งเป็นของผู้ตายที่เตรียมไว้ให้ผู้โดยสารสวมใส่ตกอยู่อีก 1 อัน ค้นในตัวพบเงินสด 260 บาท พร้อมมีดปลายแหลมขนาดเล็ก ดัดแปลงทำมาจากเลื่อยตัดเหล็ก ขนาด ยามประมาณ 5 นิ้ว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันบริเวณที่พบศพยังพบรอยเลือดเป็นทางยาวหลายจุด ส่วนรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน งธต 984 นครราชสีมา ผู้ตายหายไป
สอบสวนทราบว่า นายสันติกร ผู้ตาย ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่ตลาดเซฟวันซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโคราช โดยจะขับรถรับจ้างในช่วงเวลากลางคืนทุกวัน เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ออกไปทำงานตามปกติ ก่อนที่จะหายออกจากวินไปในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม แล้วก็ไม่กลับมาอีกจนมาพบว่าถูกฆ่าเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ยังทราบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามีคนโทรศัพท์แจ้ง 1669 ว่า มีเหตุรถล้มที่บริเวณดังกล่าวจากนั้นทางมูลนิธิฮุก 31 ฯ ได้นำเจ้าหน้าที่ขับรถใช้สปอร์ตไลท์ ส่องหาแต่ไม่พบว่ามีรถล้มแต่อย่างอย่างใด จากนั้นในช่วงเช้าได้มีโทรศัพท์ไปแจ้งใหม่ว่ามีคนเสียชีวิต ที่บริเวณดังกล่าว ถึงได้มาพบว่านายสันติกรถูกฆ่าเสียชีวิตดังกล่าว
สอบถามนายณัฐวุฒิ กาญจนวงศ์ ชาวบ้านที่ขับรถผ่านบริเวณที่เกิดเหตุ เล่าว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. ขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว พบรถ จยย.ล้ม อยู่ข้างทางโดยที่เครื่องยังติดอยู่จึงชะลอรถ ก่อนที่จะมีรถขับตามมาอีกคันซึ่งน่าจะเป็นรถพลเมืองดีจอดดู แต่ไม่รู้ว่าเป็นรถใคร เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าวที่จอดดู เป็นคนโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเห็นว่ามีคนจอดรถดูแล้วจึงขับรถไปทำธุระต่อ
ด้าน พ.ต.อ.อัทธชนม์ ช่วงงาม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง เปิดเผยว่าเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดเพราะมีหลักฐานหลายอย่างที่ขัดแย้งกัน ขณะได้หลักฐานเพิ่มขึ้นมาหลายอย่างที่มีประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจะได้สืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป