สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ถึงความคืบหน้าของปรากฏการณ์อุกกาบาตน้ำหนัก 10 ตัน เดินทางผ่านชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงถึง 54,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนแตกกระจายเป็นสะเก็ดร่วงลงบริเวณเทือกเขาอูราล ทางตอนกลางของรัสเซีย เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่า จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่า 1,000 คนแล้ว ขณะที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มตื่นตระหนกว่า การมาเยือนของอุกกาบาตอาจเป็นลางบอกเหตุของ “วันสิ้นโลก” ครั้งใหม่
แถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยรัสเซีย ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 20,000 คน กระจายกำลังลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในแคว้นเชลยาบินสก์ ทางภาคกลางของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายจากอุกกาบาตมากที่สุด ทั้งนี้ ทางการรัสเซียได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเป็นกว่า 1,200 คน ส่วนใหญ่มีบาดแผลตามร่างกายจากการถูกเศษกระจกบาด ซึ่งเกิดจากการได้รับพลังงาน และคลื่นสั่นสะเทือนความถี่สูงของอุกกาบาต นอกจากนี้ ยังมีรายงานบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ได้รับความเสียหายกว่า 3,000 แห่ง
ด้านนักวิทยาศาสตร์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐ ( นาซา ) กล่าวว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มเกิดขึ้นเพียงทุก 100 ปีเท่านั้น โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2451 ที่เมืองทันกัสคา ของรัสเซียเช่นกัน ส่วนการระเบิดของอุกกาบาตครั้งนี้มีความรุนแรงเทียบเท่าระเบิดทีเอ็นที 300,000 ตัน และรุนแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่กองทัพสหรัฐทิ้งใส่เมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 20 เท่า
แม้เหตุการณ์จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ชาวรัสเซียจำนวนไม่น้อยยังคงอยู่ในอารมณ์ตื่นกลัวและหวาดผวา ประชาชนบางส่วนพากันนึกถึงคำพยากรณ์ของนักบุญมาลาไค และนอสตราดามุส เมื่อกว่า 400 ปีก่อน ที่ระบุตรงกันว่า คริสตจักรนิกายโรมันแคทอลิกจะมีสมเด็จพระสันตะปาปา 112 พระองค์ และก่อนถึง “จุดจบ” โลกจะมีสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์สุดท้ายจะเป็นชาวโรมัน หรือชาวยุโรป สอดคล้องกับการประกาศสละตำแหน่งของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ซึ่งพระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 111 และเป็นชาวเยอรมัน ทำให้ชาวแคทอลิกจำนวนไม่น้อยเริ่มหวั่นเกรงคำว่า จุดจบ ในคำทำนายอาจหมายถึงการสิ้นโลก และการที่อุกกาบาตเดินทางมาเยือนโลกอาจเป็นลางบอกเหตุเริ่มต้น