อวดโฉมไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาเสริมตลาดเก๋งเล็ก 5 ประตู 'เชฟโรเลต โซนิก' (Sonic Hatchback) หลังจากปล่อยตัว 4 ประตูออกมาโลดแล่นพักใหญ่



งานนี้ผมเลยไม่พลาดขอจัดไปอย่าให้เสีย ซึ่งทีมพีอาร์เชฟโรเลต จัดรุ่นท็อป LTZ เกียร์อัตโนมัติ ส่งมาให้ทันทีทันใด



ด้านหน้าไม่ต่างจากตัว 4 ประตู แต่ด้านหลังเป็นแบบท้ายตัดทำให้ดูกะทัดรัดและคล่องตัวกว่า



รถรุ่นนี้จับตลาดคนรุ่นใหม่ 'เจนเนอเรชั่น วาย' ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยและเปี่ยมด้วยพลัง จุดเด่นเห็นจะเป็นกรอบไฟหน้าแบบเปิด ได้แนวคิดมาจากไฟหน้าของรถจักรยานยนต์ใหญ่แบบบิ๊กไบก์ โคมไฟหน้าสีดำสลับกับแผงสะท้อนแบบอัญมณี 



เส้นสายดูโฉบเฉี่ยวและให้ความสปอร์ตมากขึ้น แต่ก็ดูบึกบึนตามสไลต์รถอเมริกัน



กระจกหน้ารถมีระดับพื้นผิวต่ำกว่าเสาหลัง คาหน้าอยู่เล็กน้อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ และช่วยให้ที่ปัดน้ำฝนทำงานได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากมีลมต้านทานน้อยลง



ในขณะที่ขอบด้านบนของกระจกก็ใช้เทคนิคการติดตั้งแบบพิเศษที่ช่วยลดเสียงลมเล็ดลอดเข้าสู่ห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี 



จุดเด่นที่น่าสนใจคือมือจับประตูข้างด้านหลังติดตั้งอยู่ด้านบนกลืนกับขอบประตูสีดำ ทำให้เมื่อมองผาดๆ คล้ายกับเป็นรถ 3 ประตูก็ไม่ปาน



ไฟด้านท้ายออกแบบเป็นทรงกลมเพื่อให้รับกับไฟหน้า



เปิดประตูเข้าไปดูภายใน ออกแบบสไตล์ 'ดูอัล ค็อกพิต' ที่ผมชอบมากถึงมากที่สุดคือเรือนไมล์แปลกตาเป็นทรงกลมและมีช่องสี่เหลี่ยมติดกัน คล้ายๆ กับเรือนไมล์รถจักรยานยนต์ที่ขยายใหญ่ขึ้น



ช่องทรงกลมจะบอกความเร็วรอบ ส่วนช่องสี่เหลี่ยมบอกความเร็วแบบดิจิตอล



ไม่ได้ฝังเข้าไปในแดชบอร์ดแบบรถทั่วไป แต่ให้มาตรวัดติดอยู่บนแผงแดชบอร์ดแทน เพิ่มความล้ำสมัยและความสปอร์ตในห้องโดยสาร 



สีเป็นอีกส่วนที่ทำให้ดูหรูหราและสปอร์ตมากขึ้น ใช้โทนดำตัดกับคอนโซลหน้าสีอิฐ ช่องแอร์ซ้าย-ขวาเป็นแบบทรงกลมดูย้อนยุค นิดๆ ส่วนตรงกลางเป็นสี่เหลี่ยม ต่ำลงมาเป็นวิทยุ-ซีดีแบบบิลต์อิน



ปุ่มปรับแอร์แบบทรงกลมแซมด้วยสีเงินเช่นเดียวกับแผงเกียร์ และหัวเกียร์เพื่อไม่ให้ทึบทึมเกินไป



เกียร์อัตโนมัติแบบลากขึ้น-ลง โดยถัดจากเกียร์ 'D' จะเป็นเกียร์ 'M' หรือเกียร์ธรรมดา โดยมีปุ่มเพิ่ม-ลดเกียร์อยู่บนคันเกียร์ เท่ไป อีกแบบ



เบาะนั่งเป็นผ้าถักทอคุณภาพสูง นั่งสบายๆ อยู่ในระยะเอื้อมถึงทุกปุ่มปรับ



เป็นรถเล็กที่ออกแบบภายในดูสวยและคลาสสิครุ่นหนึ่ง



ในส่วนของไฟเลี้ยวอยู่ที่ก้านด้านขวาเหมือน รถญี่ปุ่น แต่ปุ่มเปิด-ปิดไฟหน้าออกแบบคล้ายรถยุโรปติดตั้งอยู่ที่คอนโซลหน้าหลังพวงมาลัย



ถึงเวลาเข้าสู่โหมดทดสอบ บิดเครื่องยนต์สตาร์ตเสียงเครื่องยนต์คำรามกำลังเหมาะ ลากเกียร์ลงมาเบาๆ ก่อนออกตัวไม่ถึงกับจี๊ดมากนัก ดูเหมือนจะเป็นสไตล์ของเชฟโรเลตอยู่แล้ว ประกอบกับเป็นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร อาจจะเป็นรองรถเครื่อง 1.5 ลิตรอยู่นิดๆ



ช่วงตีนต้นหากไม่ใช่คนใจร้อนหรือวัยรุ่นจ๋า ถือว่าพอรับได้ แต่เมื่อความเร็วทะยานขึ้นสู่ช่วงกลางและช่วงปลายมาแบบไหลลื่น กดเป็นมาตามแรงเท้า



คันเร่งเหมือนจะไวอยู่นิดๆ โดยเฉพาะในย่านความเร็วสูงหากเหยียบแบบไม่นุ่มนวลนัก เกียร์จะลดลงต่ำทันที เหมือนเป็นการ เชนจ์เกียร์แบบไม่ตั้งใจ



ผมไม่พลาดที่จะเล่นกับเกียร์ธรรมดาที่ให้มา สนุกดีครับ แค่ใช้นิ้วโป้งกด 2 ปุ่มสลับกันก็เพิ่ม-ลดเกียร์ได้ตามใจสั่ง



ยิ่งเวลาสาดเข้าโค้งแล้วลดเกียร์ลงเพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยเบรก เพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในการเข้า-ออกโค้ง



เรื่องช่วงล่างหายห่วงเพราะเป็นจุดเด่นของเชฟ โรเลตอยู่แล้ว ความเร็วระดับ 140-150 ก.ม./ชั่วโมง ไม่มีไหววูบให้รู้สึก ส่วนพวงมาลัยก็หนักแน่นและแม่นยำพอตัว



ความเงียบเป็นอีกจุดแข็งของรถยี่ห้อนี้ แม้จะเป็นรถเล็กแต่ก็ทำได้ไม่แพ้รุ่นพี่



เครื่องยนต์รุ่นนี้ใช้รางหัวฉีดแบบมีระบบควบคุมรอบการหมุนของปั๊มเชื้อเพลิง (return-less fuel rail) ระบบนี้มีความแตกต่างจากระบบจ่ายเชื้อเพลิงทั่วไปที่จะส่งคืนเชื้อเพลิงที่ไม่ได้ใช้กลับคืนสู่ถังน้ำมัน แต่ระบบดังกล่าวจะช่วยประเมินจำนวนน้ำมันที่ไหลเข้าสู่เครื่องยนต์และจำกัดเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น 



นั่นหมายความว่าจะไม่มีเชื้อเพลิงส่วนเกินที่มีความร้อนสูง ไหลกลับคืนสู่ถังเชื้อเพลิงอีกต่อไป



โซนิก 5 ประตู เป็นรถเล็กน่ารักแถมขับสนุก ที่สำคัญการออกแบบภายในสวยโดนใจจริงๆ



ข้อมูลทางเทคนิค



แบบตัวถัง เก๋ง 5 ประตู

เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Double CVC

ความจุ 1,398 ซีซี

กำลังสูงสุด 100 แรงม้า/6,000 รอบฯ

แรงบิดสูงสุด 130 นิวตัน-เมตร/4,000 รอบฯ

ระบบรองรับ (หน้า) แม็กเฟอร์สันสตรัต/คอยล์สปริง

ระบบรองรับ (หลัง) ทอร์ชั่นบีมรูปตัววี/คอยล์สปริง

มิติ (กว้างxยาวxสูง) 1,735x4,039x1,517 ม.ม.

ราคา 601,000-687,000 บาท