นักศึกษามะกันฟ้องร้องมหาวิทยาลัยหลังได้เกรดซี ทำให้หมดโอกาสได้ใบรับรองวิชาชีพจากรัฐ เรียกค่าสูญเสียรายได้ในอนาคตกว่า 38 ล้านบาท พร้อมขอให้ศาลสั่งอาจารย์แก้เกรดใหม่
มหาวิทยาลัยเลอไฮ ในเมืองเบธเลแฮม มลรัฐเพนซิลเวเนีย ยืนยันว่า เมแกน โธด วัย 27 นักศึกษาปริญญาโท สมควรได้รับเกรดซีบวก แต่ศาลเมืองนอร์ธแธมป์ตันได้ประทับรับฟ้อง โดยเห็นว่าอาจารย์อาจให้เกรดด้วยอคติ ตามที่โจทก์ฟ้อง
อาแมนดา เอ็กฮาร์ต อาจารย์ผู้สอน บอกว่า เมแกนสมควรได้เกรดซีบวก เธอไม่มีคุณสมบัติตามวิชาชีพที่จะเป็นนักบำบัด มีอารมณ์ปรวนแปร ร้องไห้ในชั้นเรียน ไม่ปรับปรุงตัวตามหนังสือเตือน และได้ 0 คะแนนจากคะแนนเต็ม 25 คะแนนสำหรับการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
การได้เกรดดังกล่าวทำให้เมแกนไม่สามารถลงทะเบียนเรียนในวิชาต่อๆไปได้ ทำให้เธอต้องลาออกจากโปรแกรมเดิม แล้วเข้าเรียนในโปรแกรมด้านการพัฒนามนุษย์แทน
เมแกนต้องได้เกรดอย่างน้อยระดับบี จึงจะสามารถเรียนในวิชาต่อๆไปได้
@ Lehigh University in Bethlehem, Pensylvania
ทนายความของเธอบอกว่า เธอถูกจ้องเล่นงาน เพราะชอบพูดสนับสนุนสิทธิการแต่งงานของชาวเกย์ในชั้นเรียน และได้โวยวายกับอาจารย์ที่สั่งให้เธอฝึกงานภาคสนามเพิ่มเติม
พ่อของเมแกน สตีเฟน โธด ซึ่งเป็นอาจารย์ด้านการการคลังที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ได้ให้การเป็นพยาน โดยบอกว่า การให้คะแนนเข้าชั้นเรียนศูนย์แต้ม ถือเป็นเรื่องผิดปกติ
"ผมไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ ไม่เฉพาะที่เลอไฮ นักศึกษาที่เข้าเรียนทุกครั้ง และมีส่วนร่วมในชั้นเรียน จะได้ศูนย์คะแนนได้อย่างไร" เขากล่าว
เมแกนได้เกรดซีบวกเมื่อปี 2552 จึงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายราว 38.82 ล้านบาท โดยอ้างว่า การให้เกรดที่ไม่เป็นธรรมของอาจารย์ทำให้เธอสูญเสียโอกาสที่จะได้รายได้ในอนาคต และขอให้อาจารย์แก้ไขเกรดใหม่
ตอนนี้ เธอทำงานเป็นนักบำบัดด้านการเลิกยาเสพติดและแอลกอฮอล แต่เธอบอกว่า เหตุที่เธอเรียกเงินก้อนดังกล่าว เพราะเธอหมดโอกาสที่จะได้ใบประกอบวิชาชีพจากรัฐ.
Source : New York Daily News