บางคนเรียนราชภัฏ รัฐสั่งเร่งคุยมวลชน หวั่นใช้เป็นเงื่อนไข


เผยประวัติ 16 โจรใต้ก่อเหตุบุกถล่มฐานนาวิกฯ ที่ นราธิวาส ไม่ธรรมดา บางคนจบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ รัฐหวั่นถูกนำไปใช้เป็นแนวทางดึงแนวร่วม สั่งเร่งชี้แจงทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ ผล ประชุมกปต.ระบุ ยังไม่จำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิวบางพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่ต้องจับตาเป็นพิเศษ เลขาฯสมช.เผยชาวบ้านในพื้นที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์คัดค้าน โดยเชื่อฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐคุ้มครองความปลอดภัยได้ รวมทั้งสถานการณ์โดยรวมดีขึ้น ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านดี แจงอีกกรณีเยียวยาครอบครัว 16 โจรใต้ ดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน 



วันที่ 15 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท. ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม สมช.คณะเล็ก เพื่อสรุปข้อมูลและสถานการณ์ต่างๆ ก่อนการประชุมศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ที่มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เป็นประธาน ว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองทัพภาคที่ 4 ส่งข้อมูลมาว่าประชาชนร้อยละ 80 ไม่เห็นด้วยที่จะให้ประกาศ เนื่องจากเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่มีศักยภาพดูแลความปลอดภัยได้ภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้อยู่ตามปกติ และทิศทางการแก้ปัญหาอยู่ในทิศทางที่ดี จับกุมผู้ก่อเหตุได้มากขึ้น ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความร่วมมือมากขึ้นด้วย 



พล.ท.ภราดรกล่าวถึงการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า รัฐบาลจะช่วยเหลือและดูแลครอบครัวตามสมควรตามหลักสิทธิมนุษยชน ด้วยการเยียวยาด้านจิตใจ ส่วนการจ่ายเงินเยียวยานั้น ผู้ที่ก่อเหตุทั้ง 16 คนไม่ได้อยู่ในข่ายรับเงินเยียวยาเนื่องจากจงใจทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ที่รับผลกระทบจากการกระทำของจากเจ้าหน้าที่รัฐ 



นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนร้าย 16 ศพ สวมเสื้อเกราะของอาสาสมัคร หรือ อส. สังกัดกระทรวงมหาดไทยว่า ตรวจสอบพบว่าเสื้อเกราะทั้ง 12 ตัว เป็นของกรมการปกครอง 5 ตัว เป็นของตำรวจ 5 ตัว และอีก 2 ตัวกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบร่องรอย ซึ่งตนสั่งกรมการปกครองตรวจสอบซ้ำอีกทีว่า 5 ตัวนั้นมีที่มาอย่างไร เบื้องต้นคาดว่าเป็นเสื้อเกราะของ อส. และชรบ.ที่ถูกฆ่าแล้วชิงเอาไป ทั้งนี้ สั่งให้ค้นเสื้อเกราะของ อส.ในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจ.สงขลา ว่าอยู่ที่ใดบ้าง 



ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการเสนอคลิป 16 ศพ พร้อมบทสวดจีฮัด หวังปลุกระดมอ้างศาสนา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ภาครัฐต้องพูดความจริงให้ทุกคนทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เป็นไปตามที่ปลุกระดม 



เมื่อเวลา 13.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เป็นประธานประชุม ศปก.กปต. มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกฯ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร เสธ.ทบ. พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เลขาธิการ สมช. ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ 



ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมถึงการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า การเยียวยาถูกแปลความหมายผิดๆ ที่บอกให้หาทางเยียวยา คือการพูดคุย เพราะเห็นใจคนที่เสียชีวิตที่เป็นคนไทยด้วยกัน ข้อเท็จจริงฟ้องอยู่แล้วเพราะบุกเข้าไปในฐานปฏิบัติการ จะไปคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ คำว่าเยียวยาทำได้หลายลักษณะ ไม่ได้หมายความว่าจะให้เงิน 7.5 ล้านบาท สำหรับคนที่เสียชีวิต 12 ใน 16 คน ก็มีหมายจับอยู่ หากตนบอกว่าขอกราบเท้าทุกคนเลิกก่อเหตุแล้วจะฟังหรือไม่ ให้กราบสามทีว่าอย่าก่อเหตุเลย ให้ลืมความหลังแล้วจะเริ่มต้นใหม่



หลังการประชุม ศปก.กปต.นานกว่า 2 ชั่วโมง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันเสียงเป็นเอกฉันท์ไม่ประกาศเคอร์ฟิว แต่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และหากจะต้องพิจารณาต้องยึดความเห็นของประชาชนเป็นหลัก 



สำหรับความคืบหน้ากรณีกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ที่หลบหนีจากการปะทะที่ฐานปฏิบัติการทหารกองร้อยปืนเล็กที่ 2 ฉก.นราธิวาส 32 บ้านยือลอ ม.3 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส คืนวันที่ 13 ก.พ. ล่าสุดเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่ายในพื้นที่ อ.บาเจาะ และชุดคลี่คลายคดีสำคัญ ศชต.ประเมินสถานการณ์ว่ากลุ่มคนร้ายสามารถหลบหนีจากเหตุปะทะประมาณ 20 คนนั้น มีแกนนำคนสำคัญร่วมอยู่ด้วย 5 คนที่ร่วมก่อเหตุ ประกอบด้วย 1.นายอับดุลฮากิม ปูตะ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.6 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ที่มีหมายจับสภ.ปัตตานี โดยในวันที่ 21 เม.ย. 2553 ขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี ทำให้ ด.ต.สมพงษ์ คงดำ เสียชีวิต 2.นายยัฟรี สารอเอง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ม.3 ต.บือเระ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มีหมายจับ สภ.สายบุรี โดยในวันที่ 25 ธ.ค. 2551 ยิงร.ต.ต.สาเหะมาหามัด อัลยุฟรี เสียชีวิต ที่ ต.ตะบุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี



3.นายอาพันดี กาพา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 ม.1 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มีหมายจับสภ.ไม้แก่น โดยในวันที่ 19 มิ.ย.2550 ลอบวางระเบิด นายชยพัทธ์ รักษายศ นายอำเภอไม้แก่นเสียชีวิต และพ.ท.สุรศักดิ์ โคตุทา เลขานุการ ศอป.รมน. อ.ไม้แก่น เสียชีวิต ที่ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี 4.นายรอแปอิง อุเซ็ง อายุ 44ปี อยู่บ้านเลขที่ 222/3 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีหมายจับ สภ.รือเสาะ โดยในวันที่ 12 ก.ย. 2551 ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รือเสาะ ในพื้นที่ ม.10 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 5.นายมะดารี วาหลง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1 ม.5 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส มีหมายจับ สภ.ยี่งอ โดยในวันที่ 28 มี.ค. 2552 ลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลตำบลยี่งอ



ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามใกล้ชิด โดยในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งหลบหนีขึ้นเทือกเขาบูโด บางส่วนกบดานในบ้านแนวร่วมเขตรอยต่ออ.บาเจาะ อ.รือเสาะ และอ.ไม้แก่น ส่วนอาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนพกสั้น 18 กระบอก ที่ยึดได้ พบว่าบางส่วนถูกขโมยจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2547 และฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 หรือ ค่ายพระองค์ดำ รวมทั้งปล้นจากอส.อำเภอกะพ้อ จ.ปัตตานี หลังจากบุกยิงเสียชีวิต และขโมยมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าธง จ.ยะลา 



รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ปะทะที่ฐานปฏิบัติการนาวิกโยธิน อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทั้ง 16 ศพ จากการตรวจสอบพบว่าทั้งหมดเป็นแกนนำสำคัญของกลุ่มปฏิบัติการที่สร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่อ.สายบุรี อ.ไม้แก่น อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี และอ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จึงคาดว่าภายหลังการสูญเสียครั้งนี้จะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวเบาบางลง แต่ยังกังวลว่ากลุ่มปฏิบัติการในพื้นที่อื่นๆ จะก่อเหตุเพื่อแก้แค้นเจ้าหน้าที่ จึงสั่งให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังอย่าประมาทเด็ดขาด 



รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เมื่อตรวจสอบประวัติของทั้งหมดแล้ว พบว่าบางรายนั้นจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และมีจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏหลายแห่ง จึงวิเคราะห์แนวทางว่ากลุ่มผู้ก่อการเป็นกลุ่มปัญญาชน ที่มีความเชื่อและความคิดในอุดมการณ์อีกรูปแบบหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเร่งเข้าทำความเข้าใจกับครอบครัวและประชาชนในพื้นที่ถึงการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐ ว่าเป็นการป้องกันตัว ไม่ใช่การตั้งใจทำร้ายประชาชน เพื่อไม่ให้มีแนวร่วมก่อความไม่สงบเพิ่มขึ้นอีก 



รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการปฏิบัติการที่ฐานมว.ปล.ที่ 2 ฉก. 32 จ.นราธิวาส ที่สามารถป้องกันฐานได้ เพราะก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่วิสามัญแกนนำระดับหัวหน้าของ อาร์เคเค พร้อมยึดแท็บเล็ต 1 เครื่อง ซึ่งมีคำสั่งปฏิบัติการตีฐานทหาร และพบภาพถ่ายของฐานต่างๆ ในพื้นที่ อ.บาเจาะ จึงสั่งการให้ทุกฐานปฏิบัติการเตรียมพร้อมรับมือ และมีอดีตแนวร่วมอาร์เคเคในพื้นที่ แจ้งให้หน่วยข่าวนาวิกโยธินในพื้นที่ทราบว่า จะมีการบุกโจมตีฐาน แต่ยังไม่ทราบกำหนดวันที่แน่ชัด ทุกฐานปฏิบัติการ จึงจัดกำลังเตรียมพร้อม เมื่อกำลังชุดของมะรอโซ จันทรวดี นำกำลังบุกเข้าโจมตี เจ้าหน้าที่ในฐานจุดยิงพลุส่องสว่างขึ้น และกดระเบิดเคโม พร้อมทั้งเปิดฉากยิงสกัด จนมีการปะทะกันนาน 20 นาที หลังจากคนร้ายชุดแรกเสียชีวิตคาที่ 16 ศพ และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง คนร้ายที่เหลือจึงล่าถอย โดยทิ้งรถกระบะไว้ในที่เกิดเหตุ 1 คน และจักรยานยนต์ 1 คัน ต่อมาเจ้าหน้าที่พบศพเพิ่มอีก 1 ศพ ที่ถูกยิงบาดเจ็บ และพยายามที่จะหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวในบ้านใกล้จุดที่เกิดเหตุ



การเคลื่อนย้ายกำลังกว่า 50 คนของ อาร์เคเค ใช้วิธีการสวมใส่เครื่องแบบของทหาร และมีผ้าพันคอสีต่างๆ และมีอาวุธปืนเอ็ม 16 เหมือนทหาร ทำให้สามารถผ่านจุดตรวจของเจ้าหน้าที่เข้าไปยังฐานปฏิบัติการได้อย่างสะดวก เนื่องจากจุดตรวจเข้าใจว่าเป็นกำลังทหารในพื้นที่ ที่ออกลาดตระเวนในพื้นที่



ที่จ.ยะลา นายอาดุลย์ พรมแสง ผอ.สพป.ยะลา เขต 1 เผยว่า ขณะนี้มีครูแสดงความจำนงขอย้ายภายในเขตการศึกษาจากอำเภอรอบนอกเข้ามาในเมือง 44 ราย และมีครูขอย้ายข้ามเขตไปยังพื้นที่อื่น 10 ราย เมื่อรวมกับจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจ.สงขลา มีผู้แสดงความจำนงขอย้ายออกจากพื้นที่กว่า 200 ราย เนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบ รวมทั้งเหตุการณ์ล่าสุดที่อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ที่พบใบปลิวข่มขู่ ทำให้ขวัญและกำลังใจลดลง



ที่โรงเรียนบ้านสะเอะใน หมู่ที่ 4 ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ยะลา พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผบ.ฉก.ยะลา ตรวจเยี่ยมแผนซักซ้อมเผชิญเหตุในการดูแลคุ้มครองครู ทั้งช่วงเดินทางไปกลับ และช่วงที่สอนอยู่ ซึ่งต่อไปจะซักซ้อมแผนปฏิบัติการในโรงเรียนต่างๆ ในจ.ยะลา 



ที่จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เผยว่า ทางจังหวัดเตรียมมอบเงิน 500,000 บาท ซึ่งเป็นเงินรางวัลนำจับนายเจะหมะ วานิ หนึ่งผู้ก่อเหตุวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ อ.หาดใหญ่ ให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดตามจับกุม นอกจากนี้สั่งการนายอำเภอในพื้นที่เสี่ยง 6 อำเภอ อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย หาดใหญ่ และ อ.สะเดา ให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุดเพื่อป้องกันคนร้ายล้างแค้น