2ตัวที่"องค์ภา"ทรงไถ่ชีวิต ลุยตรวจตลาดค้า-โรงเชือด
ตร.ออกหมายจับ โจรแสบลักควาย 2 ตัว ที่"พระองค์ภา"ทรงไถ่ชีวิตจากโรงฆ่าสัตว์ ผบช.ภ.1 ลั่นคดีนี้ต้องจบโดยเร็ว ตั้งรางวัลนำจับ 5 หมื่นให้คนชี้เบาะแส พร้อมสั่งตรวจสอบโรงฆ่าสัตว์ในพื้นที่ภูธรภาค 1 และตลาดนัดวัวควายในภาคเหนือ-อีสาน ยังเชื่อว่าควายมีชีวิตอยู่ รุดดูที่วัดโตนดเตี้ย กรุงเก่า พบลูกควายส่งเสียงร้องหาแม่ไม่หยุด
จากกรณีคนร้าย 2 คน ใช้รถยนต์กระบะนิสสันสีขาว ไปลักควาย 2 ตัว ของวัดโตนดเตี้ย ม.4 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยควายที่ถูกขโขมยเพศผู้ชื่อ "คล้าว" และเพศเมียชื่อ "ทองกวาว" อายุ 5 ปี ซึ่งทั้งสองตัวเป็นควายที่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชร กิติยาภา ทรงไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์ ใน อ.ภาชี และประทานให้ทางวัดเลี้ยงดูเมื่อปี พ.ศ.2551 ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ม.ค. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช ภ.1 พล.ต.ต. กรเอก เพชรไชยเวส ผบก. พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รองผบก. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.กฤษณะ คุณากร รองผบก. สส.ภ.1 พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.กก.สส. ภ.จว.พระนครศรีอยุยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 1 ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นายเรวัต ประสงค์ นายอำเภออุทัย พระครูเกษมพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโตนดเตี้ย ได้ร่วมกันประชุมถึงความคืบหน้าของการติดตามคนร้าย ที่ขโมยควาย 2 ตัว
พล.ต.ท.นเรศเปิดเผยว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมากพอสมควรจากการสอบสวนพยานจนสามารถสเกตช์ภาพของคนร้ายได้ 1 คน โดยทางพนักงานสอบสวน สภ.อุทัย ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับคนร้ายได้ 1 คน เลขที่ จ.118/56 เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ให้จับกุมบุคคลไม่ทราบชื่อปรากฏตามภาพสเกตช์ ในข้อหาร่วมกันกระทำความความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ลักทรัพย์ที่เป็นของผู้ที่มีอาชีพเกษตรกรรม โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี โดยเฉพาะมีพยานหลายปากยืนยันตรงกันว่า พบเห็นรถยนต์กระบะบรรทุกควายที่ส่งเสียงร้องเรียกหาลูกตลอดเวลา ได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานทางนิติวิทยา ศาสตร์อย่างละเอียด ทางฝ่ายสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องสงสัยลักษณะคล้ายกับภาพสเกตช์มาสอบสวนแต่ยังไม่พบการกระทำความผิด
จากการตรวจสอบควายที่อยู่ในวัดพบว่ายังมีควายเหลืออยู่อีก 8 ตัว ควายเพศเมียชื่อปิ่นอนงค์ อายุประมาณ 1 ปี เป็นลูกคล้าวและทองกวาว ส่งเสียงร้องโหยหวนเดินวนเวียนเพื่อหาแม่เป็นภาพที่น่าเวทนาและสะเทือนใจ ที่ลูกต้องพรากจากแม่
พล.ต.ท.นเรศกล่าวอีกว่า อยากฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่พบเบาะแสลักษณะของควายให้รีบแจ้งมาที่พล.ต.ต.กรเอกได้ตลอดเวลา ขณะนี้ได้ตั้งรางวัลนำจับ ผู้ที่สามารถชี้เบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ เป็นเงิน 50,000 บาท ได้ประสานไปยังโรงฆ่าสัตว์ในพื้นที่ภูธรภาค 1 ตลาดนัดวัวควายในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน มั่นใจว่าจะได้ตัวคนร้ายและควายกลับคืนมา เชื่อว่าควายยังมีชีวิตอยู่ คดีนี้ต้องจบโดยเร็ว
นายทองคำ ทองวิเชียร ปศุสัตว์อำเภออุทัย เปิดเผยว่า คล้าวกับทองกวาวได้นำมาไว้ที่วัดเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2551 ปัจจุบันควายทั้งสองตัวเจริญเติบโตเต็มที่รูปร่างสูงใหญ่ น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัมขึ้นไป เป็นควายที่ไม่เคยเจ็บป่วยเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่สมบูรณ์ ตกลูกมาแล้วถึง 6 ตัว
สำหรับเหตุลักควายทั้ง 2 ตัวนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพระครูเกษมพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโตนดเตี้ย เข้าแจ้งความต่อสภ.อุทัย ว่าวัดเลี้ยงควายไว้ 10 ตัว โดยควายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ 2 ตัวของวัดถูกคนร้ายขโมยไป คาดว่าที่คนร้ายเลือกขโมยควายทั้ง 2 ตัวไปนี้ เพราะมีสายตะพายที่จูงขึ้นรถได้ ส่วนตัวอื่นๆ ไม่มีสายตะพาย จากการสอบสวนพยานเห็นรถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ด้านหลังทำเป็นคอกเหล็ก ขับจอดใกล้ควาย แล้วเห็นชาย 2 คน จูงควาย 2 ตัวขึ้นรถไป แต่ขณะนั้นไม่เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นเจ้าของควาย