ซิงเกิ้ลเปิดตัวในวงการเพลงเกาหลี กับ She’s Bad
“สำหรับเพลง She’s Bad จะมีเนื้อหาต่อว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่มาทำให้เราหลงรัก เราก็รักเค้า พอความรักกำลังจะไปได้ดีเค้าก็ทิ้งเราไป แล้วก็กลับมาขอคืนดีใหม่ พอเรายอมคืนดีซักพักเค้าก็ไปอีกแล้ว เลยทำให้รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ะ she’s bad มาก เราจะร้องด้วยอารมณ์โกรธ เวลาเพอร์ฟอร์แมนซ์ก็ต้องแสดงออกแบบโกรธๆ ดุๆ ตามเนื้อหาของเพลง ส่วนตอนอัดเสียงก็ต้องพยายามจินตนาการเหมือนเราเป็นนักแสดงน่ะครับเพราะในชีวิตจริงเราก็ยังไม่เคยเจอประสบการณ์ที่ต้องโกรธใครขนาดนี้มาก่อนนะ(หัวเราะ) ที่ผ่านมาเพลงที่ร้องที่ไทยส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงช้า หวาน ซึ้ง ละมุนละไมน่ะครับ”
จุนฮยอง นักร้องวง BEAST ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้เพลง
“ผมรู้จัก จุนฮยอง มาก่อนในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของ BEAST ดีใจที่ได้ร่วมงานกับเขาครับ รวมทั้งต้องขอบคุณจุนฮยองมากๆ ที่มาแต่งและร้องท่อนแร็พให้เพลง She’s Bad ซึ่งมันเจ๋งมากอะ คือถึงผมจะไม่ได้เข้าใจในทุกคำแต่เขาทำให้เพลงนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้นอีกครับ ถึงผมจะไม่ได้มีโอกาสนั่งคุยจริงจังกับจุนฮยองเพราะตารางงานของเขาค่อนข้างแน่น อย่างวันที่ถ่ายมิวสิควิดีโอ พอถ่ายเสร็จจุนฮยองก็มีงานอื่น แต่สัมผัสได้ว่าจุนฮยองเป็นคนที่ไนซ์มากครับ เขาตั้งใจทำงานจริงจังมาก เวลาถ่ายเสร็จก็จะวิ่งกลับมานั่งเช็คมอนิเตอร์ ให้ความใส่ใจกับงานมากๆ ครับ แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะจุนฮยองนะครับ รวมทั้ง ซออา นางเอกเอ็มวีด้วย ถ้าคิวงานผมและจุนฮยองตรงกันก็คงมีโอกาสได้ร่วมสเตจเหมือนที่รายการ M! Countdown อีกซักครั้งครับ”
She’s Bad เวอร์ชั่นไทย
“เดือนกว่าๆ ที่ผมไปอยู่เกาหลีเนี่ยแค่ทำเพลง She’s Bad เราก็น่าจะใกล้ตายแล้วนะ(หัวเราะ) แต่จริงๆ ผมทำมากกว่านั้นครับ ทั้ง อัดเสียง ทำเอ็มวี She’s Bad เวอร์ชั่นเกาหลี ไปพร้อมๆ กับ She’s Bad เวอร์ชั่นไทย ซึ่งก็ยังคงเป็นเสียงแร็พของจุนฮยองครับ ทำให้เป็นฟีลเพลงไทยที่มีท่อนแร็พเป็นภาษาเกาหลี ดูเท่ดีในอีกแบบนึง นอกจากนั้นผมก็อัดเสียง เพลงช้าที่มีชื่อว่า โอ~ เจบัล(Oh~ Please) ที่มีเวอร์ชั่นไทยชื่อเพลง ยิ่งฟังยิ่งเจ็บ ด้วย แต่ช่วงแรกที่ทำเพลงนี้เราไม่ได้เปิดเผยครับ”
โอ~ เจบัล… ยิ่งฟังยิ่งเจ็บ
“สำหรับเพลง โอ~ เจบัล หรือ ยิ่งฟังยิ่งเจ็บ เป็นเพลงที่เศร้ามากครับ เนื้อหาสื่อถึงความรักที่จบลงแต่เรายังไม่อยากให้มันจบ แต่เพลงทั้งสองเวอร์ชั่นจะนำเสนอแตกต่างกันนิดนึงตรงเวอร์ชั่นภาษาเกาหลีจะบอกว่า ‘ทำไมเธอทำอย่างนี้ ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไป’ แต่ของไทยเป็น ‘ถ้าจะจบ ก็พูดมันออกมาเลยดีกว่า’ แต่โดยรวมก็คือความเจ็บปวดใจที่ความรักของเรากำลังจะจบลงครับ ซึ่งทั้งสองเพลงนี้อัดเสียงเสร็จแล้วครับ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก(หัวเราะ) และถ้าโชคดีเพลงนี้ก็อาจจะได้ประกอบซีรี่ส์ของ CJ E&M ด้วยครับ… (เคยเจอประสบการณ์ตรงกับตัวเองไหม?) เอ่อ ก็เคยเจอจุดจบของความรักครับ แต่ก็ไม่ถึงกับอ้อนวอน ‘ได้โปรดเถอะอย่าไปไหน’ แล้วก็ไม่ถึงกับ ‘พูดออกมาเลย!’ ความรักของผมอยู่ตรงกลางน่ะ แต่สำหรับประสบการณ์ความรักเศร้าๆ น่ะเคยเจอ”
ประสบการณ์ร้องไห้กลางห้องอัด
“ตอนอัดเพลง โอ~ เจบัล เวอร์ชั่นภาษาเกาหลีนี่ผมร้องไห้ตอนอัดเสียงเลยอะ ถึงแม้ภาษาเกาหลีเราจะไม่ได้รู้ความหมายทุกคำหรอก แต่ด้วยภาษาสากลอย่างดนตรี เมโลดี้ รวมทั้งความหมายโดยรวมทำให้เราอินไปกับเพลง ยิ่งบวกกับโปรดิวเซอร์ของผมที่เขาพูดบิ้วอารมณ์ มันเหมือนเรากำลังฟังผู้ช่วยผู้กำกับคนนึงมาพูดใส่หูเราถึงฉากที่เราจะต้องร้องไห้ เค้าบอกว่า นัททิว ตอนนี้สำเนียงและน้ำเสียงยูมันได้แล้วนะ แต่ยังไม่สื่ออารมณ์เลย ไหนลองร้องแบบมีผู้หญิงคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้า และนี่คือการพูดเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะมีโอกาสได้พูดกับเค้า โอ้ คุณพระ! เจอประโยคนี้เลยร้องเพลงไม่จบเลย ร้องไห้ซะก่อน แต่ปรากฏว่าเค้าชอบครับ(หัวเราะ)”
ฟีดแบ็คแสนอบอุ่นจากแฟนเพลงทั่วโลก
“หลังจากปล่อยเพลง She’s Bad ถือว่าฟีดแบ็คดีมากครับ ดีเกินคาด ดูจากทวิตเตอร์ของผมที่ตอนนี้ก็ไม่ได้มีแค่แฟนๆ เกาหลี แต่มีจากญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ที่พยายามใช้ Google Translate เขียนภาษาไทยมาหาเรา ก็รู้สึกดีครับ มีแฟนคลับบางคนมาบ่นเหมือนกันว่าทำไมตอบแต่ภาษาไทย ผมก็เลยตอบเป็นภาษาอังกฤษ แต่ด้วยความเคยชินน่ะครับก็เลยกลับไปเป็นภาษาไทยอยู่เรื่อยๆ ทำให้แฟนคลับต้องคอยเตือนตลอด แฟนคลับไทยบางคนก็เมนชั่นมาหาบอกว่าสะใจที่เห็นพี่นัทตอบเป็นภาษาไทย มันถึงเวลาแล้วที่แฟนคลับเกาหลีเค้าต้องมานั่งแปลกันบ้างแล้วละ(หัวเราะ)… หรืออย่างตอนที่ผมขึ้นเวที MAMA ที่ฮ่องกง ทีมงานเกาหลีซึ่งเขาคอยเช็คเรตติ้งอยู่ตลอดก็เปิดให้ดูว่าตอนนี้ชื่อของ NATTHEW ขึ้น Top Searching ใน NAVER อันดับสามเชียวนะ หรือพอตอนเรากลับมาที่ไทย ก็จะมีแฟนคลับไทยช่วยเช็คอันดับเพลง She’s Bad ให้ ก็ถือเป็นกำลังใจที่ดีสำหรับผมครับ”
แอนตี้แฟน อุปสรรคสำคัญของศิลปิน
“ถ้าถามว่าผมกลัว ‘แอนตี้แฟน’ ไหม… กลัวครับ! แต่ว่าผมจะมีความคิดหนึ่งอยู่ คืออะไรที่มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเราก็ไม่ต้องไปซีเรียสให้หนักใจ เราทำในสิ่งที่เราควบคุมได้นี่แหละให้มันดีที่สุดก่อน ปัจจัยนอกที่เราควบคุมไม่ได้เราก็เรียนรู้แต่ก็อย่าไปแบกรับให้บั่นทอนความรู้สึก ณ เวลานี้ผมก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อแทนคำขอบคุณให้กับแฟนคลับไม่ว่าจะมาจากประเทศไหน และผมจะบอกตัวเองอยู่เสมอว่าการได้มาทำงานจุดนี้เป็นโชคที่ดีมาก ถ้าเราทำงานตรงนี้ไม่เต็มที่ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปสู้คนอื่นที่เขาอยากจะมาแบบเราได้ยังไง”
แผนงานในอนาคต ทั้งที่ไทยและเกาหลี
“ตอนไปอยู่เกาหลีเดือนกว่าๆ คิดถึงแฟนคลับไทยมากครับ เพราะเวลาอยู่ไทยเราจะได้เจอกันบ่อย มีงานที่ไหนเขาก็จะตามมา หรือแม้กระทั่งเราเข้าไปประชุมที่ออฟฟิศนิดหน่อย เขาก็ยังตามมาส่งข้าว ส่งน้ำ ส่งอาหาร อะไรก็แล้วแต่ที่เขาทำได้ พอไปที่นู่นผมหากินเองตลอดเลย(หัวเราะ) โอเค ตอนนี้กลับมาที่เมืองไทยก็กลับมาสู่ชีวิตที่ดีอีกครั้งนึง(หัวเราะ)… แต่หลังจากนี้ก็ยังต้องกลับไปเกาหลีครับ แต่ยังไม่แน่ใจเรื่องเวลาที่แน่นอน เพราะช่วงนี้ผมต้องทำงานกับทางค่ายทรูแฟนตาเซีย ต่อด้วยสอบไฟนอล ซึ่งเหลืออีกห้าตัวครับ ตั้งใจจะเรียนให้จบไม่อยากจะดร๊อปอีกแล้ว พอเรียนจบแล้วเราจะได้เต็มที่กับการทำงานไปเลย ส่วนงานละครที่ไทยก็ถ่ายฉากของผมจบไปแล้ว แต่ถ้าต้องไปเกาหลี ทางผู้ใหญ่คงจะจัดสรรคิวถ่ายละครเรื่องต่อไปให้ครับ”
ดาวดาวที่เคียงข้างนัททิว คือ UNIVERSE
“พอผมไปเดบิวต์ที่เกาหลีก็มีแฟนคลับที่เมืองไทยถามผมว่าเมื่อไหร่จะตั้งชื่อกลุ่มแฟนคลับซักที เค้ารอกันอยู่นะ ตั้งหรือยังๆๆ? มันก็เหมือนเป็นการบ้านอีกชิ้นนึงน่ะที่ผมต้องคิด(หัวเราะ) คือเราเป็นนักร้องที่ไทยนี่เนอะ ชื่อกลุ่มแฟนคลับส่วนใหญ่เค้าก็จะตั้งกันเองหรือไม่ก็ตั้งชื่อตามเวบไซต์ เช่น NATTHEW CLUB หรือ ตลาดนัททิวที่เวบพันทิป พอผมต้องมาตั้งชื่อกลุ่มอย่างเป็นทางการ ผมทำการบ้านเลยนะ(เน้นเสียง) เซิร์ชหาว่าที่มาของชื่อแฟนคลับวงอื่นมาจากไหน อย่าง คำว่า V.I.P, B2UTY, SONE นี่หมายความว่ายังไง และวันนี้ผมก็ทำการบ้านมาแล้วครับ(ยิ้ม) ผมอยากตั้งชื่อแฟนคลับของผมว่า ‘UNIVERSE(ยูนิเวิร์ส)’ ครับ ที่แปลว่า จักรวาล เพราะว่าผมมักจะเรียกแฟนคลับของผมว่าพวกเขาเป็นดวงดาวที่คอยส่องแสงอยู่บนท้องฟ้า เวลาที่ผมอยู่ในช่วงชีวิตที่ท้อแท้มากเหมือนท้องฟ้าที่มันมืดมน แสงดาวก็จะส่องสว่างชัดขึ้น หรือเมื่อเวลาปกติที่เหมือนท้องฟ้าตอนกลางวัน เราอาจจะมองไม่เห็นดาว แต่ดาวก็ไม่เคยไปไหน มันอยู่ตรงนั้นตลอด และยังเป็นเรื่องบังเอิญที่โลโก้การเดบิวต์ที่เกาหลีที่แจคยองออกแบบให้ก็เป็นรูปดวงดาวด้วย ก็เลยรู้สึกว่าดาวหลายๆ ดวงมารวมตัวกันก็น่าจะเป็นจักรวาล เลยตั้งชื่อว่า UNIVERSE ครับ”
แฟนคลับสาวๆ ของนัททิวเลยเป็น MISS UNIVERSE กันทุกคนแล้ว
“โอ้ เป็นความคิดที่ดีครับ ดีจังๆ ฝากทวิตหรือเอาลงเวบด้วยนะครับ(หัวเราะ)”
สีประจำกลุ่ม… ที่ยังคิดไม่ตก?
“สีประจำกลุ่มเรามีมานานแล้วครับ คือสีเขียว (Q: แต่ศิลปินเกาหลีหลายวงก็ใช้สีเขียวนะ เดี๋ยวซ้ำ) อ่า… เขียวอะเขียว!(ทำหน้าหนักใจ) เขียวอะไรดีล่ะที่ไม่ซ้ำ เอาเป็นว่าเมนชั่นกันมานะครับ(หัวเราะ)”
สนุกสนานและเต็มอิ่มกับบทสัมภาษณ์ของ NATTHEW กันไปอย่างจุใจทีเดียว… เอาเป็นว่าอย่าลืมติดตามผลงานของนักร้องหนุ่มไทยอีกคนที่กำลังก้าวสู่วงการเพลงเกาหลี รวมทั้งเป็นกำลังใจให้อนาคตที่แดนกิมจิของนัททิวสดใสไม่แพ้ที่เมืองไทยกันด้วยนะ
(อ่อ! อย่าลืมช่วยกันระบุดีกรี ‘สีเขียว’ ให้เป็นสีประจำกลุ่ม NATTHEW กันด้วยนะ )
@porplatong
ที่มา : http://music.mthai.com