นพ.อภิชาต พานิชชีวลักษณ์’ แพทย์รังสีรักษา ประจำศูนย์มะเร็งฮอไรสัน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าว ถึงการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากที่ดี หัวใจสำคัญ คือ ต้องมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตหลังการรักษาน้อยที่สุด หรือไม่มีได้จะยิ่งดี รวมทั้งพยายามไม่ให้ผู้ป่วยต้องสูญเสียอวัยวะและคงหน้าที่ให้ใช้งานได้ดัง เดิม เช่น ขับถ่ายปัสสาวะต้องไม่ลำบาก ไม่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
แต่ก่อนที่จะเลือกวิธีรักษาให้ได้ผลสูงสุด แพทย์ต้องทราบระยะของโรคก่อนว่าเฉพาะที่ หรือแพร่กระจาย รวมทั้งความเสี่ยงอยู่ในระดับ ต่ำ กลาง หรือสูง เพราะการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากมีทั้งการผ่าตัดรักษา และการใช้รังสี
เริ่มที่การผ่าตัด แบ่งออกเป็น 3 วิธี คือ ผ่าตัดเปิดหน้าท้องผ่านเข้าไปยังต่อมลูกหมาก ยังมีการส่องกล้องให้เห็นภาพเพื่อตัดชิ้นส่วนของมะเร็ง และใช้หุ่นยนตร์ช่วยผ่าตัด ทั้ง 3 วิธีไม่สามารถชี้เฉพาะได้ว่าวิธีใดจะดีไปกว่ากัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของอาการที่เกิด
ส่วนการใช้รังสีรักษา ได้แก่ การฉายรังสีจากภายนอก มักจะใช้กับผู้ป่วยที่มะเร็งยังอยู่เฉพาะที่ ในระดับความเสี่ยงต่ำ ใช้เพียงวิธีนี้อย่างเดียวก็มีสิทธิหาย และยังมีแบบไอจีอาร์ที (IGRT: Image Guided Radiation Therapy) ใช้ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากโดยเฉพาะ เหมาะกับผู้ป่วยที่อยู่ในระยะเฉพาะที่ความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะที่เคลื่อนไหวได้จึงจำเป็นต้องจับภาพนั้นให้ เห็นชัดเจน เพื่อฉายรังสีถูกตำแหน่ง หลบเลี่ยงการรบกวนอวัยวะอื่น ๆ
สำหรับการรักษาด้วยการใช้รังสี ยังมีการฝังแร่แบบถาวรและชั่วคราว สำหรับแบบถาวรนั้น แพทย์จะฝังเม็ดกัมมันตภาพรังสีไว้ในร่างกาย โดยใช้แร่ชนิด ไอโอดีน 125 กับผู้ป่วยที่มะเร็งอยู่เฉพาะที่ ความเสี่ยงต่ำ ส่วนการฝังแร่แบบชั่วคราวจะใช้แร่อีรีเดี่ยน 192 ฝังให้กับผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากเฉพาะที่ ความเสี่ยงปานกลางหรือสูง
หากโรคเข้าสู่ระยะแพร่กระจาย ที่มักจะแพร่ไปยังกระดูกทำให้ผู้ป่วยเกิดความเจ็บปวด แพทย์จะฉายรังสีไปที่กระดูกร่วมกับการให้ฮอร์โมนต้านฮอร์โมนเพศชาย ทั้งนี้วิธีการรักษามะเร็งชนิดนี้ยังมีอีกมากมาย เช่น การใช้เคมีบำบัด ส่วนการตัดต่อมลูกหมากออกมักจะเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษา เพราะค่อนข้างกระทบกับคุณภาพชีวิตของคุณผู้ชาย.
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก