เมื่อ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ท.อาวุธ ปาลีพิสัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่สวนสาธารณะริมเขื่อนแม่น้ำตาปี ใกล้แยกนริศ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนริมเขื่อนแม่น้ำตาปี บริเวณแยกสะพานนริศ พบรถยนต์เก๋งหรู ยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น CLS250 สีขาวหมายเลขทะเบียนป้ายสวย ฏษ 5678 กทม. สภาพชนติดอยู่กับราวกั้นเขื่อน กระจกประตูทั้ง 4 แตกละเอียด ส่วนที่กระจกหน้าด้านซ้าย มีรอยกระสุน 1 นัด ภายในมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ทราบชื่อต่อมาคือ นายจรรย์ชัยภาส เรืองรัตน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/89 หมู่ 6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ไหล่ขวา และ ขาขวา ส่วนอีกรายคือ นางภัชภา เรืองรัตน์ อายุ 37 ปี ภรรยาของนายจรรย์ชัยภาส ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ชายโครงขวา และนิ้วมือขวาขาด อาการสาหัส แพทย์ต้องนำเข้าห้องไอซียู เพื่อช่วยเหลือจนอาการปลอดภัย
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าสำหรับนายจรรย์ ชัยภัส เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ รู้จักกันในนามเสี่ยต้น บีเอ็ม โดยทำธุรกิจโรงแรมอยู่ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ล่าสุดกำลังมีการขยายงานที่พักเพิ่มเติม นอกจากนั้นยังเป็นเซียนพระที่มีชื่อเสียง โดยมีทรัพย์สินนับ 100 ล้านบาท ก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 พากันไปเที่ยวดื่มกินที่คูลล์คลับ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร จนกระทั่งเมื่อเดินทางออกจากร้านขณะขับรถผ่านบริเวณแยกห้างสปอร์ตเวิล์ด ปรากฏว่าได้มีคนร้าย 4 คนดักซุ่มรออยู่จนเมื่อรถของผู้บาดเจ็บขับผ่านมา 2 ใน 4 คนร้ายได้ใช้อาวุธปืน 2 กระบอก ระดมยิงเข้าใส่ จนนายจรรย์ ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังพยายามขับรถหลบหนีจนพุ่งเข้าชนราวกั้นริมเขื่อนแม่น้ำตาปี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 150 เมตร และจากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนเอ็ม 16 จำนวน 10 ปลอก ขนาด 9 มม.8 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ สุขศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการตรวจสอบร่องรอยกระสุนของกลางพบว่าอาวุธที่คนร้ายใช้มี 2 ชนิด คือ เอ็ม 16 และพกสั้นขนาด 9 มม. และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ รวมของสถานบันเทิงที่ผู้บาดเจ็บเข้าไปเที่ยวพร้อมกับภรรยาก่อนเกิดเหตุ พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ขับวนเวียนอยู่หลายครั้ง ซึ่งหลังเกิดเหตุมีพยานยืนยันว่ากลุ่มคนร้ายได้พากันขึ้นรถยนต์เก๋งต้องสงสัยขับหลบหนีไป ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอสอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ได้ อย่างไรก็ตาม ได้ส่งชุดสืบสวนเข้าหาข่าวความขัดแย้งด้านธุรกิจของผู้บาดเจ็บ คาดว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้ในเร็วนี้ๆ