เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 12 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เดินทางเข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานความคืบหน้ากรณีที่ญาติพี่น้องแบกโลงศพน.ส.อาภัสรา โตเดช ประท้วงที่หน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี ย่านโยธินพัฒนา 3 เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ตำรวจนำตัวคนร้ายที่ฆ่าขืนใจมาขอขมาต่อหน้าศพ โดยใช้เวลานานประมาณ 30 นาที
จากนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้สัมภาษณ์ว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงในคดี และกำชับว่าขอให้ได้คนร้ายตัวจริง ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าคนร้ายที่จับได้นั้นเป็นคนร้ายตัวจริงที่มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมจริงและหลักฐานทุกอย่างพร้อม นายกรัฐมนตรีเกรงว่าคนร้ายที่จับได้นั้นทางญาติผู้ตายติดใจว่าเป็นคนร้ายตัวจริงหรือไม่เท่านั้น และนายกรัฐมนตรีก็ได้กำชับให้ดูแลคดีให้ดีๆ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันอย่างเต็มที่ สามารถจับคนร้ายได้โดยเร็ว คือ พบศพในวันที่ 4 ก.พ.สืบสวนจนทราบว่าผู้ตายคือใคร และใช้เวลา 5 วันติดตามคนร้ายได้ จับกุมได้ที่อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ขณะที่ตนเองก็มีความกังวลเรื่องพยานหลักฐานที่จะมัดคนผิด หลักฐานที่ได้ไม่หลุดแน่ เพราะหลักฐานได้มาหมดแม้แต่กางเกงในผู้ตาย มีคราบเลือดหมดทุกอย่าง และพยายามจะนำตัวไปทำแผน แต่ญาติพี่น้องเขาไม่พอใจ จะทำร้ายผู้ต้องหา ทำให้ไม่สามารถทำแผนได้ จึงมากดดันเพื่อให้นำคนร้ายไปขอขมาศพ แต่ทางตำรวจฝากขังไปแล้ว ขั้นตอนอยู่ที่ศาล ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และตามกฎหมายไม่มีการนำไปขอขมาศพ ซึ่งตนคงต้องคุยกับญาติเขาอีกครั้งในวันนี้ อย่างไรก็ตามในวันเดียวกันนี้ตำรวจได้ยื่นคำร้องไปที่ศาล ดังนั้นการขอขมาอยู่ที่ศาลว่าจะให้ตัวหรือไม่
“ไม่มีปัญหา ท่านนายกฯ ท่านห่วงในประเด็นที่ว่าเห็นใจผู้หญิงด้วยกัน ที่โดนทำร้ายทารุณขนาดนี้ ท่านบอกว่าทำไมโหดร้ายกับผู้หญิงขนาดนี้ ที่ท่านเรียกผมมาอย่างนี้ และหลักฐานชัดเจนหรือไม่ ผมก็บอกว่าชัดเจนทั้งการตรวจพิสูจน์ทั้งหมด ซึ่งนายกฯท่านห่วง และนายกฯกังวลว่าในจุดที่เกิดเหตุนั้นเป็นจุดที่มืด ท่านจึงสั่งการว่าให้ประสานการไฟฟ้า และต่อไปนี้ในที่เปลี่ยวต้องให้มีแสงไฟฟ้าส่องสว่างชัดเจน พี่น้องประชาชนได้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ต่อไปนี้ นายกฯให้สั่งการประสานไปยังการไฟฟ้าด่วน เพราะในกรุงเทพฯยังมีอีกหลายจุดที่ไฟฟ้าไม่สว่างและเปิดโอกาสให้คนร้ายทำงานได้” ผบช.น.กล่าว