เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Expo 2020 Ayutthaya
ไทยส่อถอนตัวเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 หลังมีแนวโน้มลงทุนไม่คุ้มค่า ใช้งบหลายหมื่นล้านบาท
วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ ตัวแทนจากคณะกรรมการงานมหกรรมโลก (บีไออี) เดินทางมาขอเข้าพบนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับความพร้อมในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 (พ.ศ. 2563) หลังจากที่เดินทางลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมืองที่ไทยจะใช้จัดงาน แล้วเกิดความประทับใจมาก เนื่องจากเป็นเมืองมรดกโลก
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการหารือ นางสาวยิ่งลักษณ์ กลับแสดงท่าทีว่า ไทยอาจจะไม่ผลักดันการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพอย่างจริงจัง แถมความคืบหน้าในโครงการต่าง ๆ ก็ยังอยู่ในสภาพแน่นิ่ง ถึงขั้นตอนแค่เลือก จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่จัดงานเท่านั้น ส่วนความพร้อมในด้านอื่น ๆ อาทิ การประชาสัมพันธ์ การเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน แผนพัฒนาเมืองหลังจากจัดงานเสร็จ ก็ยังไม่มีแผนออกมาเป็นรูปธรรมอย่างใด ฉะนั้น ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไทยคงทำรายละเอียดในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพได้ไม่ทันวันประกาศผล หรือถ้าทันก็อาจจะไม่ได้รับเลือก
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลต้องคำนึงในการเป็นเจ้าภาพเวิลด์ เอ็กซ์โป นั่นคือ ความคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งถ้าหากไม่คุ้มค่าก็ไม่ควรลงทุน เพราะรัฐบาลต้องรับผิดชอบในหลาย ๆ อย่าง และต้องชี้แจงต่อสาธารณชนด้วยว่า การจัดงานดังกล่าวมีความคุมค่าอย่างไร ในเบื้องต้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ศึกษาแล้วว่า ต้องใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านบาทในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างการสร้างอาคาร และจัดระบบสาธารณูปโภคในการเข้างานด้วย
ขณะที่ นายธงชัย ศรีมาดา รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ระบุว่า การเสียชีวิตของนายชุมพล ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ทำให้กระทรวงที่เป็นเจ้าภาพหลัก ต้องหยุดทำงาน และไม่ได้ตั้งคณะกรรมการระดับนโยบาย โดยที่มีกระทรวงต่างประเทศเป็นประธาน ตามมติคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ดี สสปน. ยังคงเดินหน้าประชาสัมพันธ์โครงการนี้อยู่ คาดว่าในเดือนมิถุนายนนี้ สามารถไปชี้แจงความคืบหน้าให้บีไออีทราบได้
ทั้งนี้ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเวิล์ด เอ็กซ์โป 2020 (พ.ศ. 2563) เกิดขึ้นในยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2010 (พ.ศ. 2553) จากนั้นหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็ได้ร่วมกันเลือกสถานที่จนได้ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่จัดงาน แล้วเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจนเป็นที่เห็นชอบ จึงได้ให้กระทรวงต่างประเทศ เป็นหน่วยงานกลางที่จะดูแลเรื่องนี้ ทั้งในเรื่อง ทำเคมเปญ ประชาสัมพันธ์ ภายใต้งบประมาณ 300 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก