วันนี้ (11 ก.พ.) พ.ต.ต.ทองพูน ประกอบกิจ สวส.สภ.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีคนนอนเสียชิวิตอยู่ที่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 10 ต.โพนเขวา อ.เมืองศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจิตต์ฯ และแพทย์เวร รพ.ศรีสะเกษ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง ภายในบ้านพบศพนายสมัย นัยนิตย์ อายุ 38 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนขายาว มีน้ำลายฟูมปาก บริเวณใบหน้ามีบาดแผลล้มกระแทกพื้นเล้กน้อย แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ช.ม.

สอบสวน นางเจียง นัยนิตย์ อายุ 69 ปี มารดาผู้ตาย ให้การว่า ตนและผู้ตายอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียง 2 คน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ลาบวชเพื่อทดแทนพระคุณของพ่อแม่ เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (10 ก.พ.) ผู้ตายได้ไปขอลาสิกขากับเจ้าอาวาสวัด ซึ่งเจ้าอาวาสได้มาเล่าให้ตนว่าฟัง ได้ขอไม่ให้ลาสิกขาในวันดังกล่าว เนื่องจากเป็นวันพระ เพราะตามประเพณีแล้ว วันพระไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะทำการลาสิกขา แต่ผู้ตายไม่เชื่อ จึงได้ทำการขอลาสิกขาออกมา

เมื่อกลับมาถึงบ้านบรรดาญาติต่างพากันมาวิพากษ์วิจารณ์ให้ผู้ตาย ว่าไม่สมควรลาสิกขาในวันดังกล่าว ต่อมาช่วงสายตนและญาติได้แยกย้ายกันกลับไป ส่วนตนได้ไปเก็บพริกอยู่ที่สวน จนกระทั่งค่ำมืด จึงกลับเข้ามาที่บ้านพร้อมกับทำงานบ้าน และเห็นผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่ ตนคิดว่านอนหลับ จึงไม่ได้ปลุก กระทั่งตอนดึกตนรู้สึกเป็นห่วงผู้ตายเพราะยังไม่ได้กินข้าว จึงได้เดินเข้าไปปลุก พบว่าผู้ตายนอนน้ำลายฟูมปากสิ้นลมหายใจเสียชีวิตไปเสียแล้ว

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนและตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีถุงพลาสติกใส บรรจุยาผงสีฟ้า ซึ่งเป็นยาฆ่าแมลงและศัตรูพืช วางอยู่ใกล้กับศพของผู้เสียชีวิต จำนวน 5 ถุง และมีถุงหนึ่งถูกเปิดออก ภายในถุงมียาเหลืออยู่เพียงครึ่งถุง จึงคาดว่าผู้ตายจะกินยาดังกล่าว เพื่อฆ่าตัวตาย เพราะน้อยใจแม่และญาติที่ตำหนิเรื่องลาสิกขา ดังกล่าว ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรเสร็จแล้ว ญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงส่งมอบศพผู้เสียชีวิตให้ทางญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.