เมื่อกลางดึก วันที่ 9 ก.พ. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.ท.วิวัตร กิมเขียว ร้อยเวร สภ บ้านไร่ จ.อุทัยธานี รับแจ้งพบศพนายประชุม บัวศรี อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตคาไร่อ้อยของตนเองที่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร จึงพร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยอุทัยธานี เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบร่างนายประชุม ถูกยิงด้วยปืนลูกซองสั้น ที่บริเวณเหนือราวนมซ้าย 1 นัด นอนเสียชีวิตใกล้ต้นไม้ โดยมีนางวิกฤต บัวศรี ภรรยาของผู้ตายถูกใส่กุญแจมือติดกับต้นไม้ ห่างไปประมาณ 700 เมตร พบรถกระบะอีซูซุ สีเขียว ทะเบียน บจ 7084 อุทัยธานี ของผู้ตายตะแคงอยู่ข้างทาง
สอบสวนภรรยาทราบว่า เมื่อช่วงบ่ายผ่านมาตนพร้อมผู้ตาย ออกไปทำไร่อ้อยตามปกติ ได้มีคนร้ายสองคนสวมหมวกไอ้โม่งคลุมหน้า ขับรถกระบะไปจอดบริเวณที่ผู้ตายทำไร่ ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้น จี้บังคับจับผู้ตาย และตนเองโดยใส่กุญแจมือแบบที่ตำรวจใช้ ล็อกไว้กับต้นมะขาม จากนั้นผู้ตายกำลังจะวิ่งหนีคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงใส่ร่างนายประชุม 1 นัด จนเสียชีวิตคาที่ ล้มฟุบลง จากนั้นคนร้ายได้เอาโทรศัพท์ตนเอง และของผู้ตายไปด้วย โดยไม่เอาเงินทอง หลังจานั้นคนร้ายได้นำกุญแจรถของผู้ตายไปและขับรถของผู้ตายออกจากที่เกิดเหตุด้วยอาการร้อนรน แต่ไปได้ไม่ไกล รถเกิดเสียหลักตกลงข้างถนน ไม่สามารถขับต่อไปได้ คนร้ายจึงกลับไปขึ้นรถอีกคันพากันหลบหนีไป จนถึงเวลาพลบค่ำญาติๆ ที่บ้านผิดสังเกต จึงออกตามหาตนเองและผู้ตาย มาที่ไร่ และได้รีบแจ้งตำรวจไปช่วย และชันสูตรพลิกศพนายประชุม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เปิดเผยว่า คาดว่าการตายของนายประชุม เกี่ยวกับเรื่องที่ดินขัดแย้งบุกรุกกันในพื้นที่ของผู้ใหญ่บ้านผู้ตายดูแลอยู่ ซึ่งได้นายทุน อยู่ จ.กาญจนบุรี มาซื้อที่ไว้ทำไร่อ้อยจำนวน 200 ไร่ และที่ดินดังกล่าวอยู่ติดกับกำนันผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ได้บุกรุกที่ของนายทุน จ.กาญจนบุรี จนเหลือ 32 ไร่ จนมีการฟ้องร้องขึ้นศาล ศาลได้ตัดสินให้กำนันอิทธิพล คืนที่บุกรุกให้กับนายทุน จ.กาญจนบุรี ครบ 200 ไร่ ดังกล่าว จึงสร้างความไม่พอใจให้กับกำนัน ซึ่งตอนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบว่าผู้ตายอยู่ฝ่ายใด ซึ่งต้องสืบสวน เพื่อขยายผลจับกุมผู้บงการดังกล่าว