เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าวเอพี รายงานว่า นักกลุ่มเคลื่อนไหวด้านการพิทักษ์สัตว์ในเบลารุส ได้เปิดโปงและประณามวิธีการกำจัดแมวเร่ร่อน ด้วยการจับไปขังไว้ในห้องใต้ดินอาคารร้าง แล้วปล่อยให้พวกมันขาดอาหารตาย
โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านการพิทักษ์สัตว์นี้ ชื่อว่ากลุ่ม โพรเทคท์ ไลฟ์ นำโดยเอเลนา ทิโทวา ได้แฉถึงการกระทำสุดโหดร้ายของทางการเมืองมินสก์ ของเบลารุส ที่จับแมวเร่ร่อนทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ไปขังไว้ในชั้นใต้ดินของอาคารร้าง แล้วไม่ให้น้ำให้อาหาร ปล่อยให้พวกมันอดตายไปทีละตัว พร้อมประณามว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม และสะเทือนใจคนรักสัตว์เป็นอย่างมาก
รายงานระบุว่า ในเบลารุส ดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตนั้น ทางการไม่คิดจะสร้างศูนย์สงเคราะห์สัตว์สำหรับเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนมานานแล้ว และตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มีแมวเร่ร่อนถูกฆ่าทิ้งไปแล้วกว่า 9,000 ตัว เพราะทางการถือว่า สัตว์เร่ร่อนเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง เมื่อไม่มีสัตว์เร่ร่อนเหล่านี้ ก็ไม่มีปัญหา ดังนั้น จึงต้องฆ่าแมวทิ้งด้วยวิธีอันแสนทรมานดังกล่าว เพราะเป็นวิธีที่ง่าย
ด้านแอนโทนินา กาเยนโค ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณอาคารร้างที่ทางการนำแมวมาขังและปล่อยให้อดตาย ได้เปิดเผยว่า เธอสงสารแมวเหล่านี้มาก เพราะมันร้อง และเอาเล็บข่วนตามกำแพง เหมือนกับตะเกียกตะกายหาทางออก เธอและชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้น จึงพยายามเอาน้ำและอาหารไปให้พวกมันผ่านทางรูเล็ก ๆ เพื่อให้มันมีชีวิตรอดอยู่ได้ บางคนถึงกับทนไม่ไหว ไปเปิดรูกำแพงให้กว้างขึ้นเมื่อให้แมวเหล่านี้ออกมาสู่อิสรภาพ ขณะที่ชาวบ้านบางคนก็คิดเหมือนกันว่า อยากจะช่วยเหลือแมวเหล่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะกลัวว่าทางการจะจับได้
ทั้งนี้ กฎหมายมาตราหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต ระบุว่า สัตว์เร่ร่อนที่ถูกจับได้จะถูกทางการนำมาขังไว้เป็นเวลา 5 วัน หากไม่มีเจ้าของมารับตัวคืน ก็จะสังหารเพื่อตัดภาระในที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก