วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ สว.กก.ปพ.บก.ป. ร.ต.อ.นิธิพัฒน์ กังรวมบุตร รอง สว.กก.ปพ.บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายอุทัย ระฆังทอง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 ต.เมืองยาง อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา พร้อมของกลาง นาฬิกาข้อมือสตรี ยี่ห้อ โรเล็กซ์ ไม่ทราบชื่อรุ่นแต่เป็นนาฬิกาเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และโทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่

ทั้งนี้สืบเนื่องจากนางดี เลียเบทเทล สัญชาติอังกฤษ อาชีพอาจารย์และนักวิจัย เข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.สุพิศาล หลังถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ที่ห้องนอนชั้นสองของบ้านพักใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ มูลค่าหลายล้านบาท หลังรับเรื่องจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.อธิป ทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ แผนประทุษกรรม รวมทั้งประวัติอาชญากรที่รวบรวมไว้พบว่านายอุทัย เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ และเมื่อตรวจสอบประวัติก็พบว่า นายอุทัยมีหมายจับติดตัวถึง 3 หมายจับ ได้แก่ หมายจับศาลจังหวัดระยอง ที่ 774/2555 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 ข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน หมายจับศาลจังหวัดกบินทร์บุรี ที่ 135/2555 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2555 ข้อหา หลบหนีระหว่างคุมขัง และหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 198/2548 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2548 ข้อหา หลบหนีที่คุมขัง

ต่อมาชุดสืบสวน กก.ปพ.บก.ป. สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง จึงสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาได้จากห้างสรรพสินค้าแหลมทอง อ.เมือง จ.ระยอง จากนั้นได้นำตัวไปตรวจค้นห้องพักเป็นห้องเช่า ไม่มีเลขที่ บริเวณหาดแม่พิมพ์ ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง พบของกลางอีกหลายรายการ อาทิ เครื่องช็อตไฟฟ้า ปืนบีบีกัน อุปกรณ์ชั่งและทดสอบทองคำ ตั๋วจำนำหลายใบ จึงยึดเป็นของกลางส่ง สภ.เมืองระยอง นอกจากนี้ยังสามารถติดตามทรัพย์สินของผู้เสียหายกลับมาได้ 2 รายการ คือ นาฬิกาข้อมือ และโทรศัพท์มือถือ

โดย นายอุทัย รับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนมาแล้วหลายครั้ง โดยจะใช้การขี้รถจยย.ตระเวนไปตามหมู่บ้านหรูๆจากนั้นก็ใช้หินโยนเข้าไปใน บ้านก่อนที่จะเข้าไปลักทรัพย์และถูกจับกุมมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกรับโทษจำคุกอยู่หลายปี เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาก่อเหตุอีก เมื่อครั้งไปเที่ยวที่ จ.บุรีรัมย์ แต่ก็ถูกจับกุมดำเนินคดีและรับโทษจำคุกแต่ระหว่างอยู่ในเรือนจำก็หลบหนีออก มา โดยช่วงที่อยู่ในเรือนจำได้ยิงนกตายแล้วนำเลือดนกมาอมไว้ในปากแล้วไปหลอก เจ้าหน้าที่ว่าหกล้มได้รับบาดเจ็บ เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลรักษาก็อาศัยช่วงเจ้าหน้าที่เผลอหลบหนี

นายอุทัย รับอีกว่า หลังหลบหนีมาก็ไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่ จ.ปราจีนบุรี ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดี ศาลตัดสินให้รับโทษจำคุกแต่ระหว่างอยู่ในเรือนจำก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทถูก เพื่อนนักโทษตีศีรษะแตก เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวไปส่งโรงพยาบาลก็ฉวยโอกาสหลบหนีออกมาได้อีกครั้ง สำหรับบ้านผู้เสียหายรายนี้ได้ปีนข้ามกำแพงเข้าไปแอบดูเห็นมีคนอยู่ชั้นล่าง ก็ปีนขึ้นไปชั้นสองใช้ไขควงงัดหน้าต่างเข้าไปในห้องนอนขโมยนาฬิกา โทรศัพท์มือถือ และสร้อยคอทองคำ จากนั้นได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.ระยองเอาทรัพย์สินไปขายได้เงินมารวมแล้วประมาณ 4 หมื่นบาทก็นำไปใช้เที่ยวเตร่ ร้านคาราโอเกะ และเล่นพนันฟุตบอล จึงนำตัวส่ง สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีตามหมายจับ ก่อนจะประสาน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการมาอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไป

สำหรับผู้ต้องหารายนี้มีรายงานว่าเคยถูกชุดสืบสวน บก.ป. จับกุมตัวมาแล้วครั้งหนึ่งหลังก่อเหตุลักทรัพย์บ้านพักคนมีฐานะหลายหลังในหลายจังหวัด เช่น จ.สมุทรปราการ ชลบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง เป็นต้น รวมทั้งยังเคยก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้านพักของนายตำรวจระดับผู้บัญชาการนายหนึ่งด้วย หากผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านพักตนเองก็สามารถติดต่อขอตรวจสอบของกลางได้ที่ กก.ปพ.บก.ป.หรือโทร 1195