หนุ่มออสซี่วัย 25 ใส่ฟันปลอมทั้งปาก หลังซดน้ำอัดลมวันละ 8 ลิตร
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 เว็บไซต์นิวส์ดอทคอมดอทเอยู รายงานว่า นายวิลเลี่ยม เคนเนเวลล์ อายุ 25 ปี จากประเทศออสเตรเลีย คงเป็นตัวอย่างชั้นยอดที่บอกเราว่า น้ำอัดลมธรรมดา ๆ สามารถทำอันตรายต่อสุขภาพและฟันของเราได้ เมื่อนายเคนเนเวลล์ เริ่มเสพติดการดื่มน้ำอัดลม โดยเขาดื่มน้ำอัดลมเข้าไปทุกวัน วันละ 6-8 ลิตร เป็นระยะเวลา 3 ปี จนตอนนี้ฟันเขาผุหมดทั้งปาก และทำให้เขาต้องใส่ฟันปลอมเข้าไปแทน
ทั้งนี้ นายเคนเนเวลล์ ได้เมินเฉยต่อคำเตือนของทันตแพทย์ ที่บอกถึงปัญหาอันอาจเกิดจากนิสัยติดน้ำอัดลม ว่า น้ำอัดลม จะทำลายฟันของเขาไปเรื่อย ๆ จนต้องถอนฟันออกหมด และต้องใส่ฟันปลอมเข้าไปแทน
ด้านนายเคนเนเวลล์ กล่าวว่า มีคนบอกเขาว่า คนทั่วไปจะมีฟันทั้งหมดประมาณ 32 ซี่ แต่ตอนนี้เขาเหลือฟันทั้งหมดแค่ 13 ซี่ และจำเป็นต้องถอนออกให้หมด ทั้งนี้ นิสัยติดน้ำอัดลมของเขาเริ่มมาจากการที่ไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า และเนื่องจากเขาทำงานในธุรกิจโรงแรม ทำให้เขาเข้าถึงน้ำอัดลมได้ง่าย หลังจากนั้น ฟันของเขาเริ่มผุอย่างหนัก จนทำให้เขาเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ และทำให้เขาล้มป่วยลง
ด้านนายแพทย์เจสัน อาร์มฟิลด์ จากสถาบันวิจัยสุขภาพในช่องปากของออสเตรเลีย ได้มีการเรียกร้องให้ติดคำเตือน ที่รวมถึงความเสี่ยงต่ออาการฟันผุ เอาไว้ตรงฉลากข้างขวดน้ำอัดลม โดยนายแพทย์อาร์มฟิลด์ กล่าวว่า จากการศึกษาในเด็กออสเตรเลียกว่า 16,800 คน พบว่า เด็กอายุระหว่าง 5-16 ปี กว่า 56 เปอร์เซ็นต์ จะดื่มน้ำหวานทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลมหรือน้ำผลไม้ ซึ่งนายเคนเนเวลล์เอง ก็เห็นด้วยกับการติดฉลากเตือนเอาไว้ แต่กลับมีคำถามว่า การติดฉลากแบบนี้ จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน