วันนี้ ( 5 ก.พ. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมินสก์ ประเทศเบลารุสว่า กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านการพิทักษ์สัตว์ออกโรงประณามทางการเบลารุสอย่างรุนแรง ที่ใช้วิธี “กำจัด” แมวเร่ร่อนด้วยการจับพวกมันไปขังไว้ในห้องใต้ดินตามอาคารร้าง แล้วปล่อยให้พวกมันเสียชีวิตอย่างทรมานจากการขาดอาหารและอากาศหายใจ
น.ส.เอเลนา ทิโทวา หัวหน้ากลุ่ม “โพรเทค ไลฟ” ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่มีนโยบายปกป้องและเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่สัตว์ที่ถูกทำร้ายหรือทอดทิ้ง กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ดินแดนที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตแห่งนี้ไม่มีที่พักพิงอย่างเป็นกิจจะลักษณะแก่แมวเร่ร่อน และสถิติตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า มีสัตว์แมวเร่ร่อนเฉพาะในพื้นที่เขตเทศบาลกรุงเบลารุส ถูกฆ่าอย่างทารุนกว่า 9,000 ตัว
ทิโทวากล่าวประณามมาตรการดังกล่าวของทางการเบลารุสว่า เป็นการกระทำที่ขาดซึ่งจิตสำนึก และไร้มนุษยธรรมอย่างร้ายกาจ และแสดงให้เห็นถึงความคิดของรัฐบาล ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเห็นได้ชัดว่า ต้องการกำจัดสัตว์เหล่านี้ไปให้พ้นทางเท่านั้น และไม่มีแนวคิดที่จะสร้างสถานสงเคราะห์สัตว์เร่ร่อนเลยแม้แต่น้อย
นางแอนโทนินา กาเยนโค วัย 72 ปี หนึ่งในผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้กับอาคารร้างที่เจ้าหน้าที่เทศบาลนำแมวมา “ขังลืม” กล่าวว่า เธอรู้สึกสงสารแมวเหล่านี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกมันร้อง และพากันเอาเล็บข่วนตามกำแพงคล้ายเพื่อหาทางออกตลอดเวลา เธอและชาวบ้านอีกหลายคนในละแวกนี้ทำได้เพียงคอยส่งอาหารและน้ำผ่านทางรู หรือช่องโหว่ตามกำแพงบางแห่งเข้าไปให้แมวเหล่านี้ประทังชีวิต
กาเยนโคยืนยันว่า ทุกคนล้วนอยากช่วยเหลือแมวเหล่านี้ทั้งนั้น แต่ไม่อาจทำได้ เนื่องจากกลัวความเดือดร้อนหากถูกทางการจับได้ แต่มีชาวบ้านบางคนทนไม่ไหว แอบไปเจาะขยายรูบนกำแพงหรือแงะแผ่นเหล็กที่เจ้าหน้าที่เทศบาลนำมาปิดไว้ เพื่อช่วยเหลือแมวเหล่านี้ให้เป็นอิสรภาพเหมือนกัน
กฎหมายมาตราหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตระบุว่า สัตว์เลี้ยงที่หลงทางหรือเร่ร่อนจะถูกนำมาขังไว้ 5 วันก่อน หากในระหว่างนี้ไม่มีผู้มาแสดงตนเป็นเจ้าของเพื่อรับคืน เจ้าหน้าที่จะสังหารสัตว์เหล่านี้