กรณี แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ นางเอกช่อง 7 เข้าแจ้งความกับสน.มีนบุรีว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านพักเลขที่ 295/1-3 หมู่บ้านริมสวน ซอยรามอินทรา 119/1 แขวงและเขตมีนบุรี ได้ทรัพย์สินไปประกอบด้วย นาฬิกาโรเล็กซ์ 1 เรือน แหวนทองล้อมเพชร 1 วง และตุ้มหูเพชร 1 คู่ รวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท แต่ภายหลัง แพนเค้ก-เขมนิจ พร้อมนางนวลนง จามิกรณ์ มารดา กลับออกมาแถลงว่าทรัพย์สินได้คืนมาแล้ว ไม่มีใครขโมยไปแค่เป็นเรื่องเข้าใจผิดในครอบครัว และปฏิเสธว่า นายภัทรนันท์ หรือพัตเตอร์ จามิกรณ์ น้องชายแพนเค้กไม่ได้เป็นคนนำทรัพย์สินไปอย่างที่มีกระแสข่าวพูดกัน พร้อมกับเตรียมเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอถอนแจ้งความในคดีลักทรัพย์นั้น
ความคืบหน้าคดีดังกล่าว วันนี้ ( 5 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.เทพทัต เมตตพันธุ์ พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สน.มีนบุรี กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์ติดต่อไปหานางนวลนงแล้ว เพื่อให้นางนวลนง พร้อมด้วยแพนเค้ก และพัตเตอร์มาให้ปากคำเพิ่มเติม หลังระบุว่าจะมาถอนแจ้งความ พอโทรศัพท์ไปเป็นสายว่างแต่ไม่มีคนรับสายและไม่มีการโทรกลับมาแต่อย่างใด คาดว่าครอบครัวของแพนเค้กคงจะยังยุ่งๆ อยู่ หากว่างก็คงจะติดต่อกลับมา ส่วนที่มีข่าวว่านางนวลนงระบุว่าตำรวจยังไม่ติดต่อไปนั้น ตนได้โทรศัพท์ไปหาแล้วไม่มีคนรับสาย หากจะเดินทางมาวันไหนให้ติดต่อที่ตนได้เลย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปเรื่อยๆ อีกระยะหนึ่งก่อน หากยังติดต่อไม่ได้จริงก็คงจะต้องมีการออกหมายเรียกตัวมาสอบปากคำต่อไป
พ.ต.ท.เทพทัต กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่จะมาให้ปากคำนั้นจะมาพร้อมกันทีเดียวหรือแยกกันมาก็ได้ แค่ขอให้มาให้ปากคำก็พอ แต่หากจะให้เรื่องนี้เรียบร้อยโดยเร็วก็ควรจะมาพร้อมกันจะได้สอบปากคำทีเดียว คดีจะได้มีความชัดเจน หรือหากไม่สะดวกเดินทางมาให้ปากคำที่สน.มีนบุรี ก็สามารถแจ้งเรื่องให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำที่บ้านพักได้ สะดวกทั้งนั้นแค่ติดต่อมาก็พอ เพราะไม่อย่างนั้นหากช้าเนิ่นนานออกไปอีก ก็จะพูดกันไปต่างๆ นานาว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อีกอย่างสิ่งที่ออกไปพูดกันก็ไม่ได้มีผลต่อคดีแต่อย่างใด มีแต่จะสร้างความเข้าใจผิด เรื่องนี้ทางผู้บังคับบัญชาเองไม่ได้นิ่งนอนใจ กำชับให้เร่งติดตามคดีให้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำให้ครบ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็ว่าไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น