วันนี้ (4 ก.พ.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ว่า ศาลประชาชนจังหวัดฟูเอียน ทางภาคกลางของเวียดนาม มีคำพิพากษาในวันนี้ ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 22 นักเคลื่อนไหวโตค่นล้มรัฐบาล ตั้งแต่ 10 ปีไปจนถึงตลอดชีวิต โดยถือเป็นการตัดสินคดีข้อหาล้มล้างการปกครอง ครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบหลายปี และเป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้า งผู้มีความคิดเห็นขัดแย้งกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่สร้างความวิตกกังวลต่อนานาชาติมากขึ้น ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชน ระบุว่า รัฐบาลมักใช้เป็นเครื่องมือในการปราบปรามนักเคลื่อนไหวอย่างสันติ
นายเหงียน ฮวง เคอ ทนายความ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากศาล เพื่อปกป้องผู้ถูกกล่าวหา ในการพิจารณาคดีนาน 1 สัปดาห์ในจังหวัดฟูเอียน ภาคกลางของประเทศ กล่าวกับเอเอฟพีว่า นายฟาน วาน ธู ผู้นำกลุ่มวัย 65 ปี ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ จำเลยอีก 21 คน ได้รับโทษระหว่าง 10 ปี ถึง 17 ปี หลังจากถูกกักบริเวณนาน 5 ปี โดยจำเลยส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพ ต่อข้อหาก่ออาชญากรรม ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของประชาชน
สื่อมวลชนของรัฐบาลเวียดนาม ระบุว่า จำเลยทั้ง 22 คน ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกขวาจัด ที่แฝงตัวเป็นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งผลิตเอกสาร “ใส่ร้ายป้ายสี” รัฐบาล และบิดเบือนแนวทางปฏิบัติและนโยบายของรัฐ
ทั้งนี้ มีนักเคลื่อนไหวหลายสิบคนถูกลงโทษจำคุก ตั้งแต่เวียดนาม ประเทศที่มีพรรคการเมืองผูกขาดเพียงพรรคเดียว ซึ่งปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นด้วยการห้ามการถกเถียงเรื่องการเมือง ได้เริ่มกวาดล้างครั้งใหม่ต่อกลุ่มที่แสดงความคิดเห็นอย่างเสรีในช่วงปลายปี 2552
ตามแถลงการณ์ของฮิวแมน ไรท์ส วอทช์ กลุ่มสิทธิมนุษยชนชื่อดังในนิวยอร์กของสหรัฐ ระบุว่า เวียดนามจำคุกนักเคลื่อนไหวอย่างน้อย 33 คนเมื่อปีที่แล้ว บนพื้นฐานของกฎหมายที่คลุมเครือที่ระบุให้การเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมือง มีความเป็นการก่ออาชญากรรม ส่วนเมื่อเดือนที่แล้ว เวียดนามก็จำคุกหมู่นักเคลื่อนไหว 13 คน ซึ่งรวมทั้งผู้นำศาสนาคาทอลิก บล็อกเกอร์ และนักศึกษา ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวหนึ่งที่ถูกสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มความยากลำบากในประเทศเผด็จการแห่งนี้